รัฐบาลเกาหลีใต้ และจีน ได้ลงนามขยายข้อตกลงการทำสว็อปค่าเงินมูลค่า 38 ล้านล้านวอน หรือ 2.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพด้านการเงินในภูมิภาคเอเชีย
ธนาคารกลางจีนออกแถลงการณ์ในวันนี้ว่า "การเสิมสร้างความร่วมมือด้านการเงินในระดับภูมิภาคไม่เพียงเป็นประโยชน์ต่อการเสถียรภาพด้านการเงินและเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างเสถียรภาพด้านการเงินทั่วโลกด้วย ซึ่งภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว เกาหลีใต้สามารถระดมเงินทุนผ่านการทำสว็อปค่าเงินมูลค่า 2.8 หมื่นล้านดอลลาร์จากธนาคารกลางจีน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ที่เกาหลีใต้สามารถระดมทุนได้เพียง 4 พันล้านดอลลาร์เท่านั้น ส่วนเกาหลีใต้และญี่ปุ่นจะขยายการทำสว็อปค่าเงินดัวยเช่นกัน"
ประธานาธิบดี ลี เมียง บัค ของเกาหลีใต้ ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากจีนและญี่ปุ่น ให้ช่วยยับยั้งค่าเงินวอนที่ร่วงลงรุนแรงถึง 31% ในปีนี้ ซึ่งส่งผลให้เงินวอนกลายเป็นสกุลเงินที่อ่อนตัวลงมากที่สุดในบรรดาสกุลเงินสำคัญๆของเอเชีย โดยนายกรัฐมนตรีทาโร อาโสะ ของญี่ปุ่น และนายเหวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีน ได้เข้าพบกับนายลีที่เมืองฟูคูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อหารือเรื่องวิกฤตการณ์การเงินที่ลุกลามไปทั่วโลก
ในการหารือกันครั้งนี้ เกาหลีใต้ได้เจรจาขยายข้อตกลงการทำธุรกรรมสว็อปค่าเงินกับหลายประเทศที่มีทุนสำรองเงินตราต่างประเทศสูงสุดของโลก เพื่อระดมทุนปกป้องค่าเงินวอนที่ร่วงลงอย่างหนัก และเพื่อช่วยเหลือบริษัทเกาหลีให้สามารถระดมทุนในการชำระหนี้ต่างชาติได้ในยามที่ตลาดสินเชื่อทั่วโลกเผชิญภาวะตึงตัว
โรเบิร์ต ซับบารามาน หัวหน้านักวิเคราะห์จากบริษัท โนมูระ อินเตอร์เนชันแนล กล่าวกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า เกาหลีใต้ต้องการระดมทุนสกุลเงินดอลลาร์ให้มากพอที่จะปกป้องประเทศไม่ให้เผชิญวิกฤตการณ์ค่าเงินเหมือนกับในปีพ.ศ.2540 ซึ่งในปีนั้นเกาหลีใต้ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากนักลงทุนต่างชาติที่กระหน่ำขายสกุลเงินวอน จนเป็นเหตุให้เกาหลีใต้ต้องยื่นขอเงินกู้จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)