นายกรัฐมนตรีทาโร อาโสะ ของญี่ปุ่น ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 23 ล้านล้านเยน ซึ่งแผนพยุงเศรษฐกิจรอบใหม่นี้จะมุ่งให้ความช่วยเหลือตลาดแรงงาน ตลอดจนสนับสนุนการกู้ยืมในภาคธุรกิจ และการอัดฉีดเงินเพิ่มเติมเข้าสู่ตลาดการเงิน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า มาตรการใหม่ดังกล่าวจะแบ่งเป็น รายจ่ายสาธารณะ 10 ล้านล้านเยน (1.11 แสนล้านดอลลาร์) และเงินสนับสนุนตลาดการเงินจำนวน 13 ล้านเยน (1.44 แสนล้านดอลลาร์) โดยมุ่งหวังว่าจะสามารถส่งเสริมการจ้างงานและสร้างเสถียรภาพให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศได้
โดยในส่วนของค่าใช้จ่ายสาธารณะนั้น จะประกอบไปด้วยเงินจำนวน 1 ล้านล้านเยนสำหรับช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัยและความจำเป็นอื่นๆในชีวิตประจำวันแก่พนักงานชั่วคราวที่ถูกเลิกจ้าง และเงินจำนวน 1 ล้านล้านเยนเป็นรายได้ที่รัฐบาลกลางจัดสรรให้แก่ท้องถิ่น โดยมาจากรายได้การเก็บภาษีที่ส่วนกลางเก็บ (Local Allocation Tax) ตลอดจนค่าใช้จ่ายจากการระงับการเก็บภาษีลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัวและผู้ซื้อบ้าน เป็นต้น
ขณะที่ เงินจำนวนที่เหลืออีก 13 ล้านล้านเยนจะนำไปใช้แก้วิกฤตสินเชื่อ โดยจะนำไปอัดฉีดให้แก่ธนาคารต่างๆ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการปล่อยกู้ให้แก่บริษัทขนาดกลางและขนาดย่อมของญี่ปุ่น
ทั้งนี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งนี้มีขึ้น หลังจากที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 27 ล้านล้านเยนไปเมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา