นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวถึงกรณีหลายฝ่ายจะเสนอให้รัฐบาลลดภาษีเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยยอมรับว่าแนวทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว คือ การลดภาษีและการใช้จ่ายของภาครัฐ แต่ขณะนี้การลดภาษีจะกระทบต่อรายได้ของรัฐบาล เพราะขณะนี้รัฐบาลต้องจัดทำงบประมาณแบบขาดดุลและต้องกู้เงินจากตลาดมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ หากลดภาษีอีกจะกระทบต่อฐานะการคลัง จึงมองว่าการใช้จ่ายของรัฐบาลจึงเป็นส่วนสำคัญที่สุด เพราะสามารถนำเงินไปช่วยเหลือส่วนที่เป็นปัญหาได้โดยตรง
อย่างไรก็ตาม การลดภาษีจะนำมาใช้บางส่วน โดยขณะนี้กำลังศึกษาแนวทางให้บริษัทที่ช่วยดูแลลูกจ้างไม่ให้ตกงาน เพื่อนำค่าใช้จ่ายค่าแรงและเงินเดือนดังกล่าวมาลดหย่อนภาษี รวมถึงค่าใช้จ่ายฝึกอบรมพัฒนาแรงงานมาคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายหักลดหย่อนภาษีด้วย เพื่อเตรียมพร้อมเมื่อเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น คาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปเร็ว ๆ นี้ แต่ก็ต้องหาแนวทางควบคุมไม่ให้ธุรกิจบางรายฉวยโอกาสนำค่าใช้จ่ายเงินเดือนในขณะที่ธุรกิจเข้มแข็งมาแอบอ้างขอลดภาษี
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าเศรษฐกิจขณะนี้ได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจโลก เพราะจีดีพีไตรมาส 4 ลดลงมาก อาจทำให้เศรษฐกิจปี 52 ชะลอตัว ดังนั้น วันที่ 25 ธ.ค.นี้ จะประกาศทบทวนเป้าหมายตัวเลขเศรษฐกิจอีกครั้ง หลังจากคาดการณ์ว่าปี 52 จะขยายตัว 4%
สำหรับภาคการท่องเที่ยว มองว่าเป็นปัญหาชั่วคราว จึงต้องแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด เพราะมาตรการภาษีช่วยเหลือได้ไม่มาก ส่วนใหญ่จะมีปัญหาสภาพคล่อง และจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองและกำลังซื้อในต่างประเทศถดถอย ทำให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเที่ยวน้อยลง จึงต้องหามาตรการอื่นมาช่วยเหลือ