สหรัฐเผยดัชนี PPI เดือนพ.ย.ร่วง 2.2% ส่งสัญญาณเศรษฐกิจอาจเผชิญภาวะเงินฝืด

ข่าวต่างประเทศ Saturday December 13, 2008 09:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ทั่วไปเดือนพ.ย.ร่วงลง 2.2% ซึ่งเป็นสถิติที่ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 และทำให้เกิดความกังวลว่าระบบเศรษฐกิจสหรัฐอาจเผชิญภาวะเงินฝืดเร็วๆนี้ ส่วนดัชนี PPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ย.ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์

ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนี PPI เดือนพ.ย.จะลดลง 2.0% เนื่องจากต้นทุนด้านพลังงานปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มถดถอยลงในระดับที่ลึกขึ้นและอาจเผชิญภาวะเงินฝืดในอีกไม่นานนี้

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 หดตัวลง 0.5% มากกว่าที่คาดว่าจะหดตัวเพียง 0.3% และเป็นสถิติที่หดตัวลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 ของปีพ.ศ.2544 ซึ่งเป็นผลมาจากผู้บริโภคลดการจับจ่ายใช้สอย

ทั้งนี้ ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายลง 3.7% ในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงที่สุดในรอบ 28 ปี เมื่อเทียบกับที่คาดว่าจะลดลง 3.1% ขณะที่ภาคครัวเรือนลดการใช้จ่ายลง 17.6% ซึ่งเป็นการร่วงลงติดต่อกันยาวนานถึง 11 ไตรมาส

ดานา เพริโน โฆษกทำเนียบขาวกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "เศรษฐกิจหดตัวลงอย่างเห็นได้ชัด รัฐบาลจำเป็นต้องใช้มาตรการที่แข็งแกร่งเพื่อยับยั้งภาวะถดถอย เราเชื่อว่าปัจจัยหนึ่งที่ทำให้จีดีพีไตรมาส 3 หดตัวลงเกินคาดมาจากการที่ผู้บริโภคลดการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะผู้บริโภคเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ยากขึ้นนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์การเงิน ดังนั้น มาตรการของรัฐบาลจึงมุ่งเน้นเรื่องการกระตุ้นตลาดสินเชื่อไม่ให้หยุดชะงัก" สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ