ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยนิวยอร์กชี้ศก.สหรัฐอาจถดถอยยาวนานที่สุดหาก"จีเอ็ม-ไครสเลอร์"ล้มละลาย

ข่าวต่างประเทศ Monday December 15, 2008 06:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศาสตราจารย์โนเรล รูบินี แห่งมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า หากเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) หรือ ไครสเลอร์ สองค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ล้มละลาย และนำไปสู่การปิดโรงงานรถยนต์ จะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐถดถอยยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1980

"เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้วในขณะนี้ และหากค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ล้มละลาย ก็จะยิ่งตอกย้ำเศรษฐกิจให้ถดถอยยาวนานขึ้น และจะส่งผลกระทบไปยังภาคส่วนต่างๆของระบบเศรษฐกิจด้วย" ศาสตราจารย์รูบินีกล่าวให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์ก

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา วุฒิสภาสหรัฐมีมติไม่อนุมัติแผนการให้ความช่วยเหลือบริษัทผลิตรถยนต์ในสหรัฐมูลค่า 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ด้วยการโหวตลงคะแนน 52-35 เสียง แม้ก่อนหน้านี้สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติผ่านแผนการดังกล่าวด้วยการลงคะแนนเสียง 237-170 ไปแล้วก็ตาม

การคว่ำแผนให้ความช่วยเหลืออุตสาหกรรมรถยนต์ของวุฒิสภาสหรัฐส่งผลให้ นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญในแวดวงอุตสาหกรรม รวมถึง เจพี เพาเวอร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ กังวลว่าหากจีเอ็มและไครสเลอร์ล้มละลาย จะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐตกอยู่ในภาวะโกลาหลภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ อีกทั้งจะส่งผลให้บริษัททุกประเภทที่เกี่ยวข้องกับการผลิตรถยนต์ ได้รับผลกระทบไปด้วย

บ็อบ ชนอร์บัส หัวหน้านักวิเคราะห์จากเจพี เพาเวอร์กล่าวว่า "บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ในสหรัฐอาจต้องปิดโรงงานหลายแห่ง อีกทั้งจะปลดพนักงานออกนับแสนคน และจะลดการผลิตลงด้วย สถานการณ์เหล่านี้จะทำให้ซัพพลายเออร์จำนวนมากล้มละลายตามไปด้วย ซึ่งจะสร้างความโกลาหลและสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจอย่างมาก นอกจากนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบเชิงจิตวิทยาต่อผู้บริโภค และจะฉุดรั้งเศรษฐกิจให้ถดถอยลงในระดับที่ลึกกว่าเดิม ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะอุตสาหกรรมรถยนต์เป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญของเศรษฐกิจ หากอุตสาหกรรมล่มสลาย ระบบเศรษฐกิจก็จะได้รับความเสียหายด้วย"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ