ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 ธ.ค.) เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมสัปดาห์นี้
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 90.830 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 91.100 เยน/ดอลลาร์ แต่ฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.1583 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1778 ฟรังค์/ดอลลาร์
ขณะที่ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.3690 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3372 ดอลลาร์/ยูโร และค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.5280 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.4956 ดอลลาร์/ยูโร
ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ 0.5535 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 0.5450 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียขยับขึ้นแตะระดับ 0.6673 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.6620 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย
ไบรอัน โดแลน นักวิเคราะห์จาก Forex.com กล่าวว่า นักลงทุนจับตาดูการประชุมครั้งสุดท้ายในปีพ.ศ.2551 ของเฟด ซึ่งจะมีขึ้นในวันอังคารที่ 16 ธ.ค.นี้ โดยมีกระแสคาดการณ์ในวงกว้างว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rate) ลงอีก 0.5% เหลือเพียง 0.5% เพื่อยับยั้งเศรษฐกิจไม่ให้ถดถอยรุนแรง
ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช แห่งสหรัฐ ส่งสัญญาณว่ามีความเป็นไปได้ที่จะนำเงินจากมาตรการฟื้นฟูภาคการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์มาใช้กู้วิกฤติบริษัทรถยนต์ภายในประเทศ โดยบุชกล่าวกับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซ วัน ในระหว่างเดินทางจากอิรักไปยังอัฟกานิสถานเมื่อวานนี้ว่า เขายังไม่พร้อมที่จะเปิดเผยการตัดสินใจเรื่องแผนให้ความช่วยเหลือบริษัทรถยนต์ในสหรัฐ แต่รัฐบาลจะไม่ทำให้แผนการดังกล่าวยืดเยื้อ เพราะอุตสาหกรรมรถยนต์ตกอยู่ในภาวะเปราะบางมาก
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของสหรัฐ โดยสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านของสหรัฐเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนธ.ค.เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ตลาดแรงงานซบเซา และจำนวนบ้านถูกยึดปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ทรุดตัวลงอย่างหนัก ขณะที่เฟดสาขานิวยอร์คเปิดเผยว่า ดัชนีการผลิตในนิวยอร์คร่วงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนธ.ค.
ทั้งนี้ นักลงทุนให้ความสำคัญและติดตามดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญๆของสหรัฐ โดยวันอังคารนี้ กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ย.และวันพฤหัสบดี สำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด เตรียมเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนพ.ย.