นายกรณ์ จาติกวนิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตัวเต็งล่าสุดว่าที่ รมว.คลัง คาดว่า เศรษฐกิจไทยจะติดลบต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 4/52 ต่อเนื่องถึงไตรมาส 1/52 ดังนั้น งานเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องรีบดำเนินการ คือ การแก้ปัญหาคนตกงานและราคาพืชผลตกต่ำ พร้อมไปกับการฟื้นฟูการท่องเที่ยวและส่งเสริมธุรกิจเอสเอ็มอีให้เข้าถึงแหล่งทุน เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม รัฐบาลใหม่พร้อมสนับสนุนนโยบายการเพิ่มงบกลางปีงบประมาณ 2552 วงเงิน 1 แสนล้านบาท แต่ต้องมีการจัดสรรกรอบการใช้งบประมาณใหม่ โดยจะดำเนินการหลังการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีแล้วเสร็จ รวมทั้งสานต่อนโยบายเดิมทั้งการส่งเสริมเศรษฐกิจรากหญ้า และโครงการรถไฟฟ้าแต่อาจจะต้องทบทวนเพื่อให้เกิดความเหมาะสม
"จีดีพี Q4 ปีนี้ ถึง Q1 ปีหน้า ยังติดลบ แต่หากแก้ไขการท่องเที่ยวและให้เอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินได้ น่าจะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ใน Q2-Q3 ปีหน้า และ Q4 ปีหน้าท่องเที่ยวจะดีกว่าปีนี้"นายกรณ์ กล่าว
นายกรณ์ กล่าวว่า รัฐบาลใหม่จะสานต่อนโยบายด้านเศรษฐกิจจากรัฐบาลชุดที่แล้ว ทั้งการเข้าถึงแหล่งเงินระดับรากหญ้า รวมถึงโครงการเมกะโปรเจ็คต์ แต่โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าอาจจะต้องมีการทบทวน โดยขึ้นอยู่กับความพร้อมการก่อสร้างรถไฟฟ้าแต่ละเส้นทาง ส่วนการจัดทำงบกลางปี 1 แสนล้านบาทจะเดินหน้าสานต่อ แต่จะมีการทบทวนเม็ดเงินในแต่ละโครงการให้เกิดความเหมาะสม
อย่างไรก็ตาม นโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการหลังจัดตั้งคณะรัฐมนตรีแล้วเสร็จ คือการแก้ปัญหาการว่างงาน เนื่องจากขณะนี้ พบว่าธุรกิจเอสเอ็มอี มีปัญหาการเข้าถึงแหล่งเงินทุน และจากการที่กำลังซื้อลดลง มีผลทำให้การจ้างงานลดลงตามไปด้วย ส่วนปัญหาราคาพืชผลทางเกษตรตกต่ำ ซึ่งรัฐบาลจะเร่งเข้าไปแก้ไขทั้งราคาข้าว ยางพารา และน้ำมันปาล์ม
นายกรณ์ กล่าวอีกว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้หารือกับเจ้าหน้าที่จากธนาคารโลก(เวิลด์แบงก์) เพื่อขอการสนับสนุนเงินทุนในการช่วยเหลือประชาชนในระดับรากหญ้า โดยทางเวิลด์แบงก์พร้อมสนับสนุนเงินลงทุนในโครงการเมกะโปรเจ็คต์ และช่วยเหลือโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายกรณ์ กล่าวอีกว่า ปัญหาการเมืองในประเทศ ยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ แต่เชื่อมั่นว่ารัฐบาลใหม่ จะแก้ไขปัญหา และขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไปได้แน่นอน