โกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป อิงค์ เปิดเผยตัวเลขขาดทุนไตรมาสสี่ที่ 2.29 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นการรายงานตัวเลขขาดทุนครั้งแรกนับตั้งแต่บริษัทนำหุ้นเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อปี 2542
โกลด์แมน แซคส์ระบุว่า ผลประกอบการขาดทุนที่ 4.97 ดอลลาร์/หุ้นในไตรมาสดังกล่าว ซึ่งร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับผลประกอบการที่ 3.17 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 7.01 ดอลลาร์/หุ้นเมื่อปีก่อนหน้านี้ แต่ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลคาดการณ์ว่าโกลด์แมน แซคส์จะรายงานตัวเลขขาดทุนที่ 3.73 ดอลลาร์/หุ้น
ตัวเลขขาดทุนของโกลด์แมน แซคส์ ถือเป็นอีกหลักฐานหนึ่งที่ตอกย้ำให้เห็นถึงความปั่นป่วนวุ่นวายในตลาดเงินที่ส่งผลกระทบทั่วทุกภาคส่วนของระบบเศรษฐกิจ ไม่เว้นแม้แต่สถาบันการเงินที่มีผลการดำเนินงานยอดเยี่ยมอย่างโกลด์แมน แซคส์ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นวาณิชธนกิจชั้นนำในวอลล์สตรีทที่มีความมั่นคงแข็งแกร่งที่สุดท่ามกลางสถานการณ์ทางการเงินที่เลวร้ายในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม แม้โกลด์แมน แซคส์จะเปิดเผยตัวเลขขาดทุนในไตรมาสสี่ แต่หุ้นของโกลด์แมนถีบตัวสูงขึ้น 15% ในช่วงท้ายการซื้อขายท่ามกลางบรรยากาศการลงทุนที่เป็นไปอย่างคึกคัก หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ลงอีก 0.75-1.0% สู่ระดับ 0-0.25% เมื่อคืนที่ผ่านมา
ด้านนักวิเคราะห์จากหลายสำนักได้ให้เหตุผลถึงการที่ตลาดหุ้นพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนที่ผ่านมากับทางสำนักข่าวเอพีว่า เป็นเพราะนักลงทุนยังมีมุมมองในด้านบวกต่อกิจการของโกลด์แมน แซคส์ เนื่องจากผลประกอบการไตรมาส 4 ของบริษัทไม่ได้ลดลงเกินจากระดับเป้าหมายของนักวิเคราะห์
ทั้งนี้ ภาควาณิชธนกิจต่างเผชิญชะตากรรมที่เลวร้ายนับตั้งแต่เดือนก.ย.เป็นต้นมา ซึ่งเป็นช่วงที่เลห์แมน บราเธอร์สยื่นพิทักษ์ทรัพย์ล้มละลาย ขณะที่โกลด์แมน แซคส์ และมอร์แกน สแตนลีย์เปลี่ยนสถานะเป็นบริษัทโฮลดิ้ง