ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงหนักเทียบสกุลเงินหลักๆ เหตุนลท.ยังตื่นข่าวเฟดลดดอกเบี้ย

ข่าวต่างประเทศ Thursday December 18, 2008 07:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงร่วงลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆของโลก ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 ธ.ค.) โดยดอลลาร์ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนเมื่อเทียบกับยูโรและต่ำสุดในรอบ 13 ปีเมื่อเทียบเยน เนื่องจากนักลงทุนยังคงกระหน่ำขายดอลลาร์ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 87.390 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 88.930 เยน/ดอลลาร์ และร่วงลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.0724 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1193 ฟรังค์/ดอลลาร์

ขณะที่ค่าเงินยูโพ่งขึ้นแตะระดับ 1.4405 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันอังคารที่ 1.4098 ดอลลาร์/ยูโร แต่ค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลงแตะระดับ 1.5524 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.5603 ดอลลาร์/ปอนด์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ 0.5928 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.5783 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7038 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.6970 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย

ไมเคิล วูลฟอล์ค นักวิเคราะห์ด้านปริวรรตเงินตราจากแบงค์ ออฟ นิวอร์ก เมลลอน คอร์ป กล่าวว่า นักลงทุนยังคงกระหน่ำขายค่าเงินดอลลาร์หลังจากเฟดสร้างปรากฏการณ์ด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ ซึ่งการลดดอกเบี้ยทำให้สกุลเงินดอลลาร์มีมูลค่าน้อยลงและไม่น่าดึงดูดใจ อีกทั้งทำให้นักลงทุนย้ายฐานการลงทุนออกจากตลาดปริวรรตเงินตราไปยังตลาดที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่า

คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดประกาศลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ลงอีก 0.75-1.0% สู่ระดับ 0-0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปีพ.ศ.2497 จากเดิมที่ระดับ 1.00% และปรับลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน (discount rate) ลงอีก 0.75% สู่ระดับ 0.50% จากเดิมที่ระดับ 1.25% โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างยั่งยืน และจะใช้เครื่องมือทุกอย่างที่มีอยู่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างยั่งยืน อีกทั้งยังคงยืนหยัดในนโยบายสนับสนุนกลไกตลาดการเงินให้กลับมาทำงานได้อย่างปกติ

ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของสหรัฐ รวมถึงรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่ระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไปเดือนพ.ย.ร่วงลง 1.7% ซึ่งเป็นการร่วงลงรุนแรงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มเก็บข้อมูล CPI รายเดือนในปีพ.ศ.2490 ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนพ.ย.ร่วงลง 18.9% เหลือเพียง 625,000 ยูนิต จากเดือนต.ค.ที่ระดับ 771,000 ยูนิต ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีทคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 740,000 ยูนิต

นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเรื่องผลประกอบการในธุรกิจการเงิน หลังจากโกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยตัวเลขขาดทุนไตรมาสสี่มูลค่า 2.29 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการขาดทุนครั้งแรกนับตั้งแต่บริษัทนำหุ้นเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์ก และมอร์แกน สแตนลีย์ เปิดเผยตัวเลขขาดทุน 2.37 พันล้านดอลลาร์ หรือ 2.34 ดอลลาร์/หุ้น



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ