สมาคมผู้ผลิตยานยนต์ของญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานคาดการณ์ในวันนี้ว่า ยอดขายรถยนต์ในญี่ปุ่นปีหน้ามีแนวโน้มร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 31 ปี เนื่องจากตัวเลขว่างงานที่พุ่งสูงขึ้นและเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงส่งผลให้ประชาชนลังเลที่จะซื้อรถยนต์ใหม่ๆ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า สมาคมฯได้คาดการณ์ยอดขายรถบรรทุก รถบัส รถยนต์ส่วนบุคคล และรถยนต์ขนาดเล็ก ว่าจะร่วงลง 4.6% เหลือเพียง 4.86 ล้านคันในปีหน้า ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 31 ปี จากเดิมที่ประเมินไว้ที่ 5.11 ล้านคัน
ฮอนด้า มอเตอร์ ซึ่งบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับสองของญี่ปุ่น ได้ปรับลดคาดการณ์ผลกำไรสุทธิของกลุ่มบริษัทประจำปีงบการเงิน 2551 ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมี.ค.ปีหน้า ลงเหลือ 1.85 แสนล้านเยน ซึ่งลดลงจากตัวเลขคาดการณ์ครั้งก่อนถึง 61.9% โดยนับเป็นครั้งที่สามแล้ว ที่ฮอนด้าปรับลดคาดการณ์ผลกำไรปีงบการเงินปัจจุบัน หลังจากที่บริษัทลดคาดการณ์มาแล้วสองครั้งในเดือนก.ค.และต.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากยอดขายในอเมริกาเหนือทรุดฮวบลง
เอียน เฟลทเชอร์ นักวิเคราะห์จากไอเอชเอส โกลบอล อินไซท์ กล่าวกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า ฮอนด้าซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่นกลังเผชิญปัญหาหนักไม่ต่างกันค่ายรถยนต์รายอื่นๆภายในประเทศ ยอดขายรถยนต์ในญี่ปุ่นมีแนวโน้มลดลงไม่เพียงเพราะถูกกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงจำนวนประชากรสูงอายุในญี่ปุ่นที่เพิ่มขึ้นด้วย
ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ภายในประเทศ (ทังกัน) ในวันนี้ โดยระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ผลิตรายใหญ่ รวมถึงผู้ผลิตรถยนต์และสินค้าอิเล็กทรอนิก ร่วงลงแตะระดับ -24 จุดในไตรมาสสี่ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 30 ปี จากไตรมาสสามระดับ -3 จุด ซึ่งเป็นสถิติที่ร่วงลงติดต่อกันยาวนานถึง 6 ไตรมาส และร่วงลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ -23 จุด โดยปัจจัยที่ทำให้ดัชนีทังกันร่วงลงอย่างรุนแรงในไตรมาส 4 มาจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงและวิกฤตการณ์การเงินที่ลุกลามไปทั่วโลก