นายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนกล่าวย้ำในวันนี้ว่า จีนถูกแรงกดดันจากนานาประเทศให้ลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อภายในประเทศเริ่มปรับตัวลดลงแล้ว
ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่กรุงปักกิ่งเนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปีที่จีนใช้นโยบายตลาดเปิดในวันนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่าธนาคารกลางจีนมีแนวโน้มจะลดอัตราดอกเบี้ยตามธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หรือไม่ นายโจวตอบว่าจีนจะปรับอัตราดอกเบี้ยก็ต่อเมื่อเห็นว่าจำเป็นต้องปรับ และการตัดสินใจของจีนก็ไม่เกี่ยวข้องกับเฟดหรือธนาคารกลางอื่นๆ แต่ยอมรับว่านานาประเทศกำลังกดดันให้จีนลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อภายในประเทศปรับตัวลดลงแล้ว
ธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยแล้ว 3 ครั้งในปีนี้ หลังจากเศรษฐกิจขยายตัวเพียง 9% ในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นสถิติการขยายตัวที่ช้าที่สุดในรอบ 5 ปี โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและดอกเบี้ยเงินกู้ลงอย่างละ 0.27% ซึ่งทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะเวลา 1 ปี ลดลงเหลือ 3.60% จากเดิมที่ 3.87% และดอกเบี้ยเงินกู้จะลดลงแตะ 6.66% จาก 6.93%
แต่กระแสกดดันให้จีนลดดอกเบี้ยลงอีกเริ่มรุนแรงขึ้นหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดประกาศลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ลงอีก 0.75-1.0% สู่ระดับ 0-0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปีพ.ศ.2497 จากเดิมที่ระดับ 1.00% และปรับลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน (discount rate) ลงอีก 0.75% สู่ระดับ 0.50% จากเดิมที่ระดับ 1.25% โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างยั่งยืนและยับยั้งเศรษฐกิจจากภาวะถดถอย สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน