ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆของโลก ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 ธ.ค.) โดยดอลลาร์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 เดือนเมื่อเทียบกับเยน เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นอาจเข้าแทรกแซงตลาดเพื่อยับยั้งการแข็งค่าของเงินเยน และดอลลาร์พุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรจากข่าวที่ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ดำเนินนโยบายผ่อนปรนเงินกู้ระหว่างธนาคารพาณิชย์
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์พุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 89.260 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 87.310 เยน/ดอลลาร์ และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์ที่ 1.0838 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0729 ฟรังค์/ดอลลาร์
ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.4231 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.4401 ดอลลาร์/ยูโร และเงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.5002 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.5510 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลงแตะระดับ 0.5801 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.5911 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงแตะระดับ 0.6806 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.7020 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย
นักลงทุนเข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอย่างคับคั่ง หลังจากมีข่าวว่านายโซอิชิ นาคากาว่า รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น กล่าวว่า ญี่ปุ่นจะใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อรับมือกับเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นอย่างมาก หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจลดดอกเบี้ยลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์ในวงกว้างว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวและเพื่อยับยั้งการแข็งค่าของสกุลเงินเยนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นพยายามกดดันให้บีโอเจใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มสภาพคล่องในตลาดการเงิน และให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่ภาคเอกชนที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการที่สถาบันการเงินทั่วโลกเข้มงวดด้านการปล่อยกู้
บีโอเจได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับ 0.35 จากเดิมที่ 0.55 ในการประชุมเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบกว่า 7 ปี อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าบีโอเจจะลดดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมวันศุกร์นี้ หลังจากพบว่าการระดมทุนในตลาดการเงินยังคงเป็นไปอย่างยากลำบาก และการแข็งค่าของสกุลเงินเยนกำลังบั่นทอนผลประกอบการของบริษัทส่งออกญี่ปุ่น
ค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 13 ปีในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ลงอีก 0.75-1.0% สู่ระดับ 0-0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปีพ.ศ.2497 จากเดิมที่ระดับ 1.00%