รัฐบาลญี่ปุ่นปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจสำหรับปีงบประมาณหน้า หลังเศรษฐกิจโลกซบเซาหนักจนส่งผลให้ภาคเอกชนต้องลดการลงทุนอย่างต่อเนื่อง
ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) อาจไม่มีการขยายตัวในปีงบประมาณหน้าซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. ถือว่าต่ำกว่าที่รัฐบาลเคยคาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัวราว 1.6% โดยตัวเลขดังกล่าวจะถูกนำไปคาดการณ์รายได้จากภาษีในปีงบประมาณ 2552 ซึ่งจะได้รับการเปิดเผยในวันนี้
เศรษฐกิจที่ซบเซากดดันให้รัฐบาลต้องขายพันธบัตรมากขึ้นเพื่อชดเชยรายได้จากภาษีที่ลดลง ทั้งนี้ ญี่ปุ่นมีหนี้ในประเทศมากสุดในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรม โดยมีสัดส่วนถึง 170% ของจีดีพีทั้งหมด
รายงานดังกล่าวระบุว่าเศรษฐกิจจะหดตัวลง 0.8% ในปีงบประมาณปัจจุบันสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค. ซึ่งถือว่าย่ำแย่สุดนับตั้งแต่ช่วงเศรษฐกิจถดถอยครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2544 ในขณะที่การลงทุนจะร่วงหนักสุดในรอบทศวรรษที่ 4.7% และคาดว่าจะลดลง 4.2% ในปีหน้า
กระทรวงการคลังรายงานว่ารายได้จากภาษีจะลดลง 7.4 ล้านล้านเยน (8.44 หมื่นล้านดอลลาร์) ในปีงบประมาณหน้า ส่วนรายได้ทั้งหมดคาดว่าจะอยู่ที่ 46.2 ล้านล้านเยน หรือลดลงราว 14% จากปีนี้
นาโอมิ ฮาเซกาว่า นักยุทธศาสตร์จากมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ซีเคียวริตี้ส์ ในโตเกียว กล่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นอาจต้องขายพันธบัตรใหม่เพิ่มเติมเป็นมูลค่า 35 ล้านล้านเยนในปีงบประมาณหน้าเพื่อชดเชยรายได้ที่ลดลง สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน