สำนักงานศุลกากรจีนเปิดเผยว่า การส่งออกอาหารของจีนชะลอตัวในเดือนตุลาคม ซึ่งมีสาเหตุสำคัญมาจากข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับนมผงและไข่ปนเปื้อนสารเมลามีน จนทำให้นานาประเทศหวั่นเกรงเรื่องความปลอดภัยของอาหารที่ผลิตในประเทศจีน
โดยในเดือนต.ค. จีนส่งออกสินค้าประเภทอาหารคิดเป็นมูลค่า 2.89 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 15.6% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน แต่ต่ำกว่าอัตราการขยายตัวในเดือนก.ย.ปีนี้ถึง 13.4%
ทั้งนี้ มูลค่าการส่งออกอาหารของจีนไปยังต่างประเทศ ระหว่างเดือนม.ค.-ต.ค. อยู่ที่ 2.79 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 16.1% ซึ่ง 1.21 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 43.3% ของทั้งหมด เป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัทต่างชาติที่เปิดสาขาในจีน
สำหรับอาหารส่งออกหลักๆของจีน ได้แก่ อาหารทะเลและพืชผัก ซึ่งคิดเป็น 14.9% และ 11.9% ตามลำดับ
ส่วนตลาดส่งออกอาหารรายใหญ่สุดของจีน ยังคงเป็นญี่ปุ่น ซึ่งคิดเป็น 19.1% ของการส่งออกผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารทั้งหมด แต่มูลค่าการส่งออกอาหารของจีนไปยังญี่ปุ่นในระหว่างเดือนม.ค.-ต.ค.ปีนี้นั้น ลดลง 8.9% คิดเป็นมูลค่า 5.34 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสำนักงานศุลกากรจีนระบุว่า คดีเกี๊ยวปนเปื้อนสารพิษก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ญี่ปุ่นนำเข้าอาหารจากจีนลดลง