บริติช แอร์เวย์ส อดีตสายการบินที่มีกำไรมากที่สุดในโลก มีแนวโน้มร่วงจากตำแหน่งสายการบินอันดับ 1 ของโลก หลังประสบความล้มเหลวในการเจรจาควบรวมกิจการกับแควนตัส แอร์เวย์ส
สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้บริติช แอร์เวย์ส ต้องรื้อฟื้นการเจรจากับสายการบินไอบีเรียของสเปน และเป็นพันธมิตรกับอเมริกัน แอร์ไลน์ส ให้ได้ หากต้องการแข่งขันกับสายการบินอื่น
เหล่าสายการบินคู่แข่งของบริติช แอร์เวย์ส กำลังดำเนินการเทคโอเวอร์กิจการอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีเครือข่ายกว้างขวางขึ้นและมีรายได้มากขึ้น
อย่างสายการบินแอร์ ฟรานซ์ ก็ซื้อกิจการสายการบินเคแอลเอ็มของฮอลแลนด์ในปี 2547 เพื่อขึ้นแท่นเป็นสายการบินอันดับ 1 ของโลกเมื่อพิจารณาจากยอดขาย และอีกไม่นานอาจซื้อกิจการของสายการบินอลิตาเลีย ด้านสายการบินดอยช์ ลุฟท์ฮันซ่า เอจี ก็ซื้อสายการบินสวิส อินเตอร์เนชั่นแนล เมื่อปีที่แล้ว และเพิ่งซื้อบรัสเซลส์ แอร์ไลน์ส และ ออสเตรียน แอร์ไลน์ส ในปีนี้
"บริติช แอร์เวย์ส กำลังถูกแซงหน้าไปเรื่อยๆ" จีออฟ วอน คลาเวอเรน นักวิเคราะห์จากบริษัท Exane BNP ในลอนดอน กล่าว "ทางสายการบินกำลังตกที่นั่งลำบากเนื่องจากไม่ประสบความสำเร็จในการเจรจาควบรวมกิจการมาแล้วหลายครั้งตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งในจุดนี้แอร์ ฟรานซ์ และ ลุฟฮันซ่า ทำได้ดีกว่ามาก"
ความล้มเหลวของบริติช แอร์เวย์ส ส่งผลให้สายการบินซึ่งเคยโฆษณาว่า "ได้รับความนิยมที่สุดในโลก" ร่วงจากตำแหน่งสายการบินอันดับ 1 สู่อันดับ 3 ในยุโรป
ทั้งนี้ รายได้ต่อปีของบริติช แอร์เวย์ส อยู่ที่ราว 1.76 หมื่นล้านดอลลาร์ แทบจะเทียบไม่ได้กับแอร์ ฟรานซ์ ซึ่งอยู่ที่ 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ และลุฟท์ฮันซ่า ซึ่งอยู่ที่ 3.07 หมื่นล้านดอลลาร์ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน