"โอฬาร"แนะนลท.ปรับแผนการลงทุนหลังปีหน้าดบ.ฝากเหลือ 0%น้อยกว่าตอนปี 40

ข่าวเศรษฐกิจ Monday December 22, 2008 08:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายโอฬาร ไชยประวัติ รักษาการ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ปี 2552 อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในประเทศ แนวโน้มที่จะปรับลดลงเหลือ 0.25-0.50% ส่วนดอกเบี้ยเงินกู้ อาจจะลดเหลือเพียง 2-3% เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางดอกเบี้ยในตลาดโลก หลังจากธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ ปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว โดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐ ที่เข้าสู่ภาวะตกต่ำสุด และทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศปรับลดดอกเบี้ยนโยบายเหลือเพียง 0.25% และธนาคารกลางของญี่ปุ่น (BOJ) ปรับลดดอกเบี้ยเหลือ 0.10%

ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คงต้องดำเนินนโยบายดอกเบี้ยให้สอดคล้องกับดอกเบี้ยต่างประเทศ และได้ ส่งสัญญาณชัดเจนว่า ดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาลงแล้ว หลังจากแรงกดดันต่ออัตราเงินเฟ้อลดลง และหันมาดูแลการเติบโตเศรษฐกิจ เห็นได้ว่าล่าสุดที่ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 1% เหลือ 2.75% และได้ส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์ ประกาศปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากลงตามแล้ว

"ดอกเบี้ยที่อยู่ในอัตรา 0.25-0.50% โดยทั่วไปถือว่า ดอกเบี้ยเป็น 0% ไปแล้ว เหมือนอย่างที่ญี่ปุ่น หรือสหรัฐ ที่ลดดอกเบี้ยลง ถือว่าดอกเบี้ยเป็น 0% การกู้เงิน หรือฝากเงิน แทบจะไม่มีการคิดดอกเบี้ยกัน เพื่อหวังกระตุ้นให้คนใช้จ่าย กู้เงินมาลงทุนโดยไม่ต้องเสียดอกเบี้ย" นายโอฬาร กล่าว

นายโอฬาร กล่าวว่า แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงเหลือ 0% ถือว่าสถานการณ์เลวร้ายเทียบกับช่วงวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 ที่แม้จะเป็นช่วงเศรษฐกิจฟองสบู่ และมีปัญหาในภาคสถาบันการเงิน แต่ดอกเบี้ยเงินฝากในระบบ ยังอยู่เฉลี่ยที่ 1-2%

ทั้งนี้ นายโอฬาร ได้เสนอแนะ ให้ผู้ลงทุน หรือผู้ฝากเงิน ปรับเปลี่ยนแผนการลงทุน โดยกระจายการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าการฝากเงินในระบบธนาคารพาณิชย์ โดยเห็นว่า เงินลงทุนทั้งหมด ควรแยกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรก ให้ฝากเงินกับธนาคารพาณิชย์ หรือลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ อีกส่วน ลงทุนซื้อหุ้นพื้นฐานที่ดี ราคาถูก ซึ่งอาจเป็นหุ้นในกลุ่ม set 50 และอีกส่วน นำเงินไปลงทุนซื้อทองคำ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ