เงินเยนอ่อนค่าลงในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวเช้าวันนี้ (22 ธ.ค.) จากกระแสคาดการณ์ที่ว่า การอนุมัติเงินกู้ฉุกเฉินให้กับเจนเนอรัล มอเตอร์ คอร์ป และไครสเลอร์ แอลแอลซี ได้ช่วยฟื้นความเชื่อมั่นของลงทุนให้กลับมาถือครองสกุลเงินดอลลาร์มากขึ้น
นอกจากนี้ เงินเยนยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินยูโรจากกระแสคาดการณ์ที่ว่านายมาซาอากิ ชิรากาว่า ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะแถลงถึงผลเสียของการแข็งค่าของเงินเยนที่พุ่งขึ้น 25% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของญี่ปุ่น
ขณะเดียวกัน เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเทียบกับเงินยูโรก่อนที่ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค ยอดขายบ้านและยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนปรับตัวลดลงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 09.30 น. ตามเวลาในโตเกียว เงินเยนอ่อนค่าลงสู่ระดับ 89.77 ดอลลาร์จากระดับปิดในตลาดนิวยอร์กที่ 89.31 ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยเงินเยนร่วงลงสู่ระดับ 125.76 ยูโร จากระดับ 124.76 ยูโร ขณะที่เงินยูโรแข็งค่าขึ้นแตะที่ 1.4016 ดอลลาร์/ยูโรจากระดับ 1.3912 ดอลลาร์/ยูโร
ด้านเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น 0.2% แตะที่ 68.24 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย ส่วนเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ไต่ระดับขึ้น 0.7% แตะที่ 57.84 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.4% แตะที่ 1.4976 ดอลลาร์/ปอนด์
มาซาโนบุ อิชิกาว่า นักวิเคราะห์จาก Tokyo Forex & Ueda Harlow Ltd กล่าวว่า "การอนุมัติเงินกู้ของรัฐบาลสหรัฐช่วยต่อลมหายใจให้กับจีเอ็มและไครสเลอร์สามารถดำเนินธุรกิจได้จนถึงสิ้นปีนี้ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวกดดันให้เงินเยนอ่อนค่าลงเล็กน้อย"
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุชของสหรัฐได้อนุมัติเงินกู้ฉุกเฉินที่แบ่งมาจากงบประมาณในแผนกู้วิกฤตการเงินสหรัฐมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ซึ่งจีเอ็มและไครสเลอร์จะสามารถนำเงินจำนวน 1.34 หมื่นล้านดอลลาร์มาใช้ได้ตั้งแต่เดือนนี้เละเดือนถัดไป โดยจีเอ็มจะได้เงินจำนวน 9.4 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ไครสเลอร์จะได้ไป 4 พันล้านดอลลาร์ ส่วนที่เหลืออีก 4 พันล้านดอลลาร์นั้นจะทยอยจัดสรรเพิ่มเติมในเดือนก.พ.โดยมีเงื่อนไขว่าบริษัททั้ง 2 แห่ง จะต้องเร่งปรับโครงสร้างบริษัทให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 มีนาคมปีหน้า