"กอร์ปศักดิ์"เล็งปล่อยเงินผ่านแบงก์รัฐ-โยกงบเข้าระบบช่วงรอเพิ่มงบกลางปี

ข่าวเศรษฐกิจ Monday December 22, 2008 10:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เบื้องต้นคาดว่ารัฐบาลจะสามารถอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบสูงกว่า 1 แสนล้านบาทจากการเพิ่มงบกลางปี 52 ที่ขั้นตอนยังต้องใช้เวลาอีก 2 เดือน ดังนั้น ช่วงแรกรัฐบาลจะดำเนินการผ่านกลไกธนาคารรัฐในการปล่อยสินเชื่อให้มีเงินเข้าสู่ระบบ 3-4 หมื่นล้านบาท และโยกเงินงบประมาณบางโครงการในปีงบ 52 ที่คาดว่าจะดำเนินการได้ล่าช้า มาใช้ในโครงการที่จำเป็นและเบิกจ่ายเงินได้เร็วก่อน เพื่อมีให้เงินเข้าสู่ระบบอีก 4-5 หมื่นล้านบาท

นอกจากนั้น รัฐบาลจะเริ่มจัดทำงบประมาณปี 53 ตั้งแต่เดือน ม.ค.52 เพื่อให้สามารถเบิกจ่ายได้โดยเร็ว

"หากจะใช้เงินงบประมาณ ใช้ไม่ได้ทันที เพราะไม่ได้จัดงบประมาณไว้ และงบกลางปี 1 แสนล้านบาทก็มีกระบวนการอีก 2 เดือน ดังนั้น กลไกแบงก์รัฐ คือสิ่งที่ทำได้ และปรับเปลี่ยนงบผูกพันปี 52 โยกงบอีก 4-5 หมื่นล้านบาท หลังจากนั้นจะเริ่มขั้นตอนการทำงบปี 53 แล้ว"นายกอร์ปศักดิ์ กล่าว

นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวยอมรับว่า การดำเนินนโยบายการคลังมีข้อจำกัด และมีความล่าช้าของการเบิกจ่ายงบประมาณ แต่ยังมีทางออก โดยใช้การสถาบันการเงินของรัฐเป็นกลไกกระตุ้นการให้สินเชื่อเพื่อปล่อยเงินเข้าสู่ระบบ กระทรวงการคลังจะเข้าไปค้ำประกันด้วยการขอมติ ครม. แม้จะทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังพอมีช่องที่จะเพิ่มหนี้ได้

ส่วนในด้านนโยบายการเงินนั้น นายกอร์ปศักดิ์ ปฏิเสธกระแสข่าวว่าทีมเศรษฐกิจเตรียมหารือกับ นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ในสัปดาห์หน้า แต่ก็เชื่อว่าหากมีการหารือก็คงไม่ใช่เพื่อกดดันการทำงานให้ ธปท.ซื้อคืนพันธบัตร 3 แสนล้านบาทจากธนาคารพาณิชย์ และลดดอกเบี้ยนโยบายเหลือ 1% หรือบริหารจัดการให้เงินบาทอ่อนค่าลงอีก 5-10%

นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า มีความเห็นที่สอดคล้องกับผู้ว่า ธปท.ว่าขณะนี้สภาพคล่องในระบบไม่มีปัญหา แต่ธนาคารพาณิชย์ไม่กล้าปล่อยสินเชื่อเข้าสู่ระบบ เนื่องจากขาดความเชื่อมั่น ขณะที่ธุรกิจขนาดใหญ่ๆ ที่เคยระดมเงินกู้เงินต่างประเทศจะหันมากู้ในประเทศมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ธนาคารพาณิชย์เลือกปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลจะทำ จึงต้องใช้นโยบายการคลังเริ่มก่อน ส่วนนโยบายการเงิน ธปท. มีหน้าที่ดูปริมาณเงินให้อยู่ระดับเหมาะสม

"อย่าไปมองให้เป็น Negative ผมเชื่อว่าทุกคนรักบ้านเมือง และ ธปท.ซึ่งมีความเป็นอิสระ แต่อิสระแล้วไม่รับผิดชอบบ้านเมือง ก็ไม่ได้ หากยืนยันจะทำอะไร ท่านต้องออกมารับผิดชอบชัดเจน มีอิสระแต่ไม่รับผิดชอบไม่ได้...ไม่มีความกังวลเรื่องเงินในระบบ เราใช้เหตุผลในการหารือกัน " นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวทางรายการวิทยุ เมื่อเช้านี้

อย่างไรก็ตาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลจะเร่งสร้างความสมานฉันท์ในประเทศ เพื่อฟื้นความเชื่อมั่นภายใน 2 เดือน แว่ปัญหาเศรษฐกิจจะไม่สามารถแก้ไขใน 2 เดือน เพราะขณะนี้ทั่วโลกเผชิญภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่จะดำเนินนโยบายเพื่อไม่ให้เศรษฐกิจทรุดตัวไปกว่านี้

และเชื่อว่ารัฐบาลมีบุคคลที่มีประสบการณ์การทำงาน แม้จะเป็นนักการเมืองมืออาชีพ แต่งานทางการเมืองต่างจากงานภาคธุรกิจที่มีอุปสรรคมากกว่า ดังนั้น การวางนโยบายให้เป็นจริงที่ต้องผ่านกระบวนการทางการเมืองและกระบวนการทางราชการ ต้องมีบุคคลที่เข้าใจเรื่องทั้งสองเรื่องและต้องมีความโปร่งใส

"ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนรัฐบาล ก็อยากได้คนเด่นคนดัง คนมีชื่อเสียง นักการเมืองอาชีพมีความเข้าใจมากกว่า...ทีมงาน และการวางนโยบาย เราต้องบอกตัวเองว่า เงินภาษีของประชาชน รัฐบาลจะส่งคืนให้กลับไปอย่างไรโดยเร็วที่สุดและไม่รั่วไหล" นายกอร์ปศักดิ์ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ