เจพีมอร์แกนคาดจีนใช้แผนกระตุ้นการใช้จ่ายผู้บริโภค หลังหั่นดอกเบี้ย 0.27%

ข่าวต่างประเทศ Tuesday December 23, 2008 09:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค คาดการณ์ว่า สิ่งที่รัฐบาลจีนจะดำเนินการต่อจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อวานนี้ คือประกาศใช้มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายผู้บริโภคเพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในยุโรปและสหรัฐที่ฉุดรั้งยอดส่งออกของจีนทรุดตัวลงตามไปด้วย โดยภาคส่งออกเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของจีน

ธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ประเภท 1 เดือนลงอีก 0.27% เหลือเพียง 5.31% และลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประเภท 1 เดือนลงอีก 0.27% เหลือเพียง 2.25% อีกทั้งปรับลดสัดส่วนสำรองสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ลงอีก 0.5% ในการประชุมเมื่อวานนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวและยับยั้งเศรษฐกิจจากภาวะถดถอย

"เราคาดว่าธนาคารกลางจีนจะใช้นโยบายผ่อนปรนทางการเงินเพิ่มเติม และจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ครอบคลุมถึงการกระตุ้นการอัตราการอุปโภคบริโภคภายในประเทศ และกระตุ้นการใช้จ่ายผู้บริโภค เพื่อลดผลกระทบที่ยอดส่งออกของจีนร่วงลงอย่างหนัก" จิง อูลริค นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกนในฮ่องกงกล่าว

อย่างไรก็ตาม หุ้นบริษัทจีนที่เข้าเทรดในตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางจีนลดอัตราดอกเบี้ยน้อยเกินไปและยังไม่สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัวช้าลงในปีหน้า แม้นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า ประกาศใช้มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานมูลค่า 4 ล้านล้านหยวน หรือ 5.83 แสนล้านดอลลาร์ อาทิ โครงการสร้างถนนและสะพาน ก็ตาม

ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด คาดการณ์ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีนจะขยายตัวเพียง 6.8% ในปีพ.ศ.2552 ลดลงจากปีนี้ที่คาดว่า จะขยายตัว 9.0% และจากปีพ.ศ.2550 ที่ขยายตัว 11.9%

สตีเฟ่น กรีน นักเศรษฐศาสตร์ของสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มชะลอตัวลงในช่วงครึ่งปีแรก จากนั้นจึงจะฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยในช่วงครึ่งปีหลัง อย่างไรก็ตาม คาดว่าอัตราการลงทุนภาคเอกชนจะไม่ชะลอตัวลงมากนักในช่วงครึ่งปีแรก แม้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอ่อนแอลงอย่างต่อเนื่องก็ตาม

นอกจากนี้ สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์คาดว่า ค่าเงินหยวนของจีนจะอ่อนตัวลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นผลมาจากความกังวลเรื่องตัวเลขการส่งออก โดยคาดว่าเงินหยวนจะอ่อนตัวลงแตะระดับ 6.82 หยวน/ดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ