มูดีส์คาดการณ์ว่า ค่าเงินวอนของเกาหลีใต้และเงินรูปีของอินเดีย ซึ่งเป็นสกุลเงินเอเชียที่ร่วงลงหนักสุดในปีนี้ จะฟื้นตัวขึ้นในปีหน้า เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนเริ่มมีความมั่นใจที่จะเข้าซื้อสกุลเงินของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่และจากเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น
เชอร์แมน ชาน นักวิเคราะห์จาก Moody’s Economy.com กล่าวว่า "ค่าเงินวอนและรูปีมีศักยภาพแข็งแกร่งพอที่จะฟื้นตัวขึ้นในปีหน้า เนื่องจากนักลงทุนให้ความสนใจเข้าซื้อสกุลเงินในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ ซึ่งจะช่วยให้เงินทุนหมุนเวียนในรูปสกุลเงินวอนและรูปีราบรื่นขึ้นในระบบการเงิน นอกจากนี้ สกุลเงินทั้งสองจะได้รับแรงหนุนจากอัตราการลงทุนที่มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นตามเศรษฐกิจโลกในช่วงปลายปีหน้าด้วย"
นักลงทุนต่างชาติกระหน่ำขายหุ้นในตลาดหุ้นเกาหลีใต้เป็นเงินสุทธิ 3.7 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีนี้ ส่งผลให้ดัชนีคอมโพสิตดิ่งลง 39% เนื่องจากวิกฤตการณ์สินเชื่อบีบให้นักลงทุนทุ่มซื้อดอลลาร์เก็บไว้ในมือ ซึ่งทำให้ค่าเงินวอนกลายเป็นสกุลเงินที่ร่วงลง 29% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ซึ่งร่วงลงหนักสุดในบรรดา 10 สกุลเงินที่สำคัญของเอเชีย ขณะที่รูปีดิ่งลง 18%
อย่างไรก็ตาม มูดีส์คาดว่าค่าเงินวอนจะดีดตัวขึ้น 6% แตะระดับ 1,242 วอน/ดอลาร์ในช่วงกลางปีหน้า และพุ่งขึ้นอีก 11% แตะระดับ 1,185 วอน/ดอลลาร์ในช่วงปลายปีหน้า ขณะเดียวกันคาดว่า ค่าเงินรูปีจะดีดตัวขึ้นจนกลายมาเป็นสกุลเงินกลุ่ม "outperform" ได้ใช่วงปลายปีหน้าหรือต้นปีพ.ศ.2553
ส่วนสกุลเงินอื่นๆในเอเชียนั้น มูดีส์กล่าวว่า เงินหยวนยังคงติดอันดับสกุลเงินแข็งแกร่งสุดในเอเชีย โดยคาดว่าเงินหยวนจะมีเสถียรภาพมากกว่าสกุลเงินอื่นๆในเอเชียหลังจากทางการจีนใช้มาตรการปกป้องกลุ่มบริษัทส่งออก ควบคู่ไปกับการหลีกเลี่ยงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประเทศคู่ค้า และคาดว่าสกุลเงินดอลลาร์สิงคโปร์ซึ่งเคยติดอันดับสกุลเงินแข็งแกร่งอันดับ 3 ในเอเชีย จะร่วงลง 5% สู่ระดับ 1.5300 ดอลลาร์สิงคโปร์/ดอลลาร์สหรัฐภายในกลางปีหน้า หลังจากรัฐบาลสิงคโปร์ประกาศใช้นโยบายยับยั้งการแข็งค่าของสกุลเงินเพื่อกระตุ้นภาคส่งออก สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน