นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ภาวะตลาดรถยนต์ทั่วโลกที่ตกต่ำรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษที่ 1990 อาจบีบให้โตโยต้า มอเตอร์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในเอเชีย ใช้มาตรการบางอย่างที่คาดไม่ถึง ซึ่งรวมถึงการปลดพนักงานเป็นครั้งแรกในรอบ 24 ปีนับตั้งแต่โตโยต้าเข้าไปสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ในสหรัฐอเมริกา เพื่อปรับลดต้นทุนการดำเนินงาน หลังจากที่โตโยต้าตัดสินใจระงับการผลิตที่โรงงานผลิตรถยนต์พรีอุสในรัฐมิสซิสซิปปี และมีแนวโน้มที่จะลดการผลิตรถยนต์ในสหรัฐและแคนาดในปีหน้าด้วย
"เราคาดว่าหากสถานการณ์ของโตโยต้ายังไม่ดีขึ้นภายในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของเอเชียรายนี้ก็อาจต้องปลดพนักงานจำนวนมากเพื่อรับมือกับผลกระทบที่เกิดจากความต้องการรถยนต์ลดน้อยลง ส่วนในขณะนี้โตโยต้ากำลังเผชิญกับวิกฤตการณ์โอเวอร์ซัพพลายเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี" เฮ็ก สต็อดดาร์ด นักวิเคราะห์จากไอเอชเอส โกลบอล อินไซท์ กล่าว
จิม ไวซ์แมน รองประธานฝ่ายกิจการต่างประเทศของโตโยต้าในอเมริกาเหนือกล่าวว่า การดำเนินงานของโตโยต้าในอเมริกาเหนือได้รับแรงกดดันอย่างหนักเนื่องจากยอดขายรถยนต์ในสหรัฐร่วงลง 13% ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้โตโยต้าออกแถลงการณ์คาดการณ์ว่า บริษัทอาจขาดทุนในปีนี้ราว 1.5 แสนล้านเยน (1.7 พันล้านดอลลาร์) ซึ่งเป็นการขาดทุนครั้งแรกในรอบ 71 ปี
"เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่ามีการพิจารณาเรื่องปลดพนักงานเนื่องจากยอดขายลดลงอย่างต่อเนื่อง เราไม่มั่นใจว่าโตโยต้าจะไปถึงจุดที่ต้องปลดพนักงาน แต่เราไม่สามารถรับประกันได้ว่ามันจะไม่เกิดขึ้น" ไวซ์แมนกล่าว
คิม คอจเฮย์ นักวิเคราะห์จากบริษัท ฟอร์ทพิทท์ แคปิตอล กรุ๊ป กล่าวว่า นักลงทุนตื่นตระหนกหลังจากนายคัตซูอากิ วาตานาเบะ ประธานโตโยต้า ออกแถลงการณ์ว่าโตโยต้าจะขาดทุนเป็นครั้งแรกในรอบ 71 ปี หลังจากที่โตโยต้าทำกำไรมาโดยตลอด ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกชัดเจนว่าค่ายรถยนต์ที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ไม่สามารถรอดพ้นจากภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลก สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน