นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้เตรียมแผนดูแลราคาสินค้าในปี 52 ด้วยการติดตามภาวะต้นทุนสินค้า 200 รายการที่ติดตามดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ปรับลดราคาลงตามต้นทุนที่แท้จริง ส่วนสินค้ากลุ่มใดที่ยังไม่ลดราคาจะขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการ แต่หากไม่ปฏิบัติตามอาจนำเข้าบัญชีสินค้าควบคุมเพื่อใช้มาตรการทางกฎหมายจัดการ
นอกจากนี้จะจัดกลุ่มสินค้าที่มีการแข่งขันในตลาดไม่สมบูรณ์ เช่น มีผู้ประกอบการรายใหญ่ไม่กี่รายคุมราคาสินค้าในตลาด โดยอาจตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาราคาแนะนำสินค้าเพื่อกำหนดราคาแนะนำขาย ไม่ให้ผู้ค้าขายเกินและดูแลราคาปลายทาง(ผู้บริโภค) ให้สอดคล้องกันต้นทาง(ผู้ผลิต) เหมือนสินค้ากลุ่มเหล็ก น้ำมันพืช ผลิตภัณฑ์นม ปุ๋ยเคมี เป็นต้น
พร้อมกันนี้ จะเพิ่มมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนมากขึ้น ซึ่งได้ขออนุมัติงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท จากงบกลาง 1 แสนล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการแฟคตอรี่เอาท์เลตสำหรับสินค้าอุตสาหกรรม และฟาร์มเอาท์เลตสำหรับสินค้าเกษตร โดยจะเปิดจุดจำหน่ายสินค้าตามจังหวัดต่างๆ และตามแหล่งท่องเที่ยว และให้ชุมชนนำสินค้าที่มีศักยภาพมาจำหน่าย ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศด้วย
นอกจากนี้จะมีการจัดงานสินค้าธงฟ้าทั่วประเทศทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กกว่า 300 ครั้งในปีหน้า เพื่อบรรเทาค่าครองชีพ ส่วนมาตรการอื่นๆ จะรอนโยบายของ รมว.พาณิชย์คนใหม่ก่อน
นางวัชรี วิมุกตายน รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า เตรียมเสนอ รมว.พาณิชย์ ของบประมาณ มาเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดงานฟาร์มเอาท์เลต 100 ล้านบาท และแฟคตอรี่เอาท์เลต 276 ล้านบาท ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดรวม 100 ครั้งในปี 52 คาดว่าการจัดงานดังกล่าวจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชน 700-1,000 ล้านบาท