สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองประจำเดือนพ.ย.ดิ่งลง 8.6% แตะระดับ 4.49 ล้านยูนิต หลังจากที่ยอดขายบ้านมือสองในเดือนต.ค.ร่วงลงสู่ระดับ 4.91 ล้านยูนิต อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวยังลดลงน้อยกว่าที่ดิ่งลงถึง 10.6% เมื่อเดือนพ.ย.ปี 2550 ซึ่งสะท้อนถึงวิกฤตในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เผชิญภาวะฟองสบู่ตั้งแต่ช่วง 2 ปีก่อน
นอกจากนี้ ราคาบ้านมือสองยังปรับตัวลดลงในเดือนที่ผ่านมา 13.2% จากปีก่อนมาอยู่ที่ระดับ 181,300 ดอลลาร์
สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติสหรัฐระบุว่า "ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังมีแรงกดดันในช่วงขาลงอย่างรุนแรงอันเป็นผลจากยอดขายที่ตกต่ำจนทำให้ราคาบ้านซบเซา"
โดยจำนวนบ้านค้างสต็อกในช่วงสิ้นเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 0.1% แตะที่ 4.20 ล้านยูนิต ซึ่งจากยอดขายในเดือนพ.ย.นั้นทำให้เจ้าของโครงการต้องใช้เวลานานกว่า 11 เดือนเพื่อโละบ้านค้างสต็อกทั้งหมด
ลอวร์เรนซ์ หยัน นักวิเคราะห์จาก NAR กล่าวว่า "วิกฤตการณ์ซบเซาในตลาดแรงงาน ตลาดหุ้น และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ตกต่ำในเดือนต.ค.และพ.ย.ล้วนส่งแรงกดดันให้ยอดขายบ้านปรับตัวลดลง"