นางลิเลียน เบตองคอร์ ทายาทชองยูจีน ชูเอลเลอร์ ผู้ก่อตั้งบริษัท ลอรีอัล เอสเอ บริษัทเครื่องสำอางชั้นนำของฝรั่งเศส ซึ่งได้นำเงินลงทุนในกองทุนแชร์ลูกโซ่ของเบอร์นาร์ด มาดอฟฟ์ อดีตประธานกรรมการตลาดหุ้นนาสแดค เป็นเงินสูงถึง 2.29 หมื่นล้านดอลลาร์ เสียชีวิตแล้วที่นครนิวยอร์ก ด้วยวัย 86 ปี
รายงานระบุว่า นางเบตองคอร์ซึ่งได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารฟอร์บส์ให้เป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดอันดับ 17 ของโลกในปีนี้ เป็นนักลงทุนคนแรกที่ไว้วางใจมาดอฟฟ์จนถึงขั้นนำเงินจำนวนมากเข้าลงทุนในกองทุนเฮดจ์ฟันด์ในรูปแบบแชร์ลูกโซ่ที่ผิดกฎหมายของมาดอฟฟ์ เช่นเดียวกับมหาเศรษฐีและผู้มีชื่อเสียงทั่วโลกที่ตกเป็นเหยื่อครั้งนี้ด้วย รวมถึงนางอลิเซีย โคโพลวิทซ์ เศรษฐีนีชาวสเปน, สตีเว่น สปีลเบิร์ก ผู้กำกับภาพยนต์ชื่อดังในแวดวงฮอลลีวู้ด และเอล ไวเซล เจ้าของรางวัลโนเบล
ข่าวการเสียชีวิตของนางเบตองคอร์กลายเป็นเรื่องคึกโครมเพราะเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่มีรายงานว่า เรเน่ เทียร์รี มากอน เดอ ลา วิลอูเชท์ วัย 65 ปี ผู้ก่อตั้งกองทุนเพื่อการลงทุนซึ่งสูญเงินกว่า 1.4 พันล้านดอลลาร์จากการฉ้อโกงของ มาดอฟ ถูกพบเป็นศพที่สำนักงานของเขาในเมืองแมนฮัตตัน โดยตำรวจระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่าเกิดจากการฆ่าตัวตาย
ศพของ เรเน่ เทียร์รี มากอน เดอ ลา วิลอูเชท์ วัย 65 ปี ถูกพบเมื่อเวลา 8.00 น.ของวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น โดยอยู่ในสภาพนั่งบนเก้าอี้ ข้อมือทั้งสองข้างถูกเฉือนด้วยของมีคม มีถังขยะวางรองเลือดไม่ให้ไหลนองพื้น นอกจากนั้นยังพบมีดคัทเตอร์บนพื้นและขวดยานอนหลับบนโต๊ะ แต่ไม่พบจดหมายลาแต่อย่างใด นายเดอ ลา วิลอูเชท์ เป็นนักลงทุนที่มีชื่อเสียงซึ่งมาจากตระกูลชนชั้นสูงของฝรั่งเศส เขาอาศัยอยู่ในย่านคนรวยชานเมืองเวสท์เชสเตอร์กับภรรยาโดยไม่มีลูก ด้านการงาน เขาเป็นอดีตประธานและซีอีโอบริษัท Credit Lyonnais Securities USA นอกจากนั้นยังเป็นนักแข่งเรือและเป็นสมาชิกสมาคมนิวยอร์ค ยอชท์ คลับ ด้วย สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน