สถาบัน Royal Institution of Chartered Surveyors (RICS) คาดการณ์ว่า ราคาอสังหาริมทรัพย์ในอังกฤษมีแนวโน้มปรับตัวลดลงประมาณ 10% ในปีหน้า เนื่องจากภาคธนาคารคุมเข้มการออกสินเชื่อ พร้อมกันนี้ยังคาดการณ์ด้วยว่า ตัวเลขการสร้างบ้านจะลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยยอดการสร้างบ้านใหม่อาจลดลงเหลือเพียง 80,000 หลัง
RICS ระบุว่า มูลค่าบ้านอาจดิ่งลงหนักสุดถึง 30% จากจุดสูงสุดหลังจากที่เพิ่มเป็นสามเท่าเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ยอดขายบ้านอาจขยายตัวขึ้น 10% ในปีหน้าหลังจากที่ดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 30 ปีเมื่อเดือนที่แล้ว
ไซมอน โรบินซอห์น นักวิเคราะห์จาก RICS กล่าวว่า "สถาบันการเงินผู้ปล่อยกู้ยังมีความไม่มั่นใจว่าผู้กู้จะสามารถผ่อนชำระหนี้ได้หรือไม่ ซึ่งภาวะเช่นนี้ประกอบกับภาพรวมเศรษฐกิจซบเซาที่เด่นชัด กดดันให้ราคาบ้านลดลงอย่างต่อเนื่องในปีหน้า"
ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐกำลังเผชิญภาวะถดถอยที่ฝังรากลึก ด้วยตัวเลขผลผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในไตรมาส 3 ที่หดตัวอย่างหนักนับตั้งแต่ปี 2533 ขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษ และ นายกรัฐมนตรีกอร์ดอน บราวน์ ต่างกระตุ้นให้ภาคธนาคารปล่อยเงินกู้ใหม่ๆให้ภาคธุรกิจเพื่อช่วยขับเคลื่อนการขยายตัวทางเศรษฐกิจให้ฟื้นคืนมาได้
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ในปีหน้านายกอังกฤษจะประกาศมาตรการใหม่เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเงินกู้ภาคอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจขนาดเล็ก หลังจากที่ยอดอนุมัติเงินกู้จำนองบ้านในเดือนพ.ย.ร่วงลง 61% จากปีก่อนไปอยู่ที่ 17,773 ราย ขณะอัตราว่างงานพุ่งขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2534