บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดขายรถยนต์ทั่วโลกเดือนพ.ย.ของโตโยต้าและบริษัทในเครือ คือ ไดฮัทสุ มอเตอร์ และฮิโน่ มอเตอร์ส ร่วงลง 21.8% จากปีที่แล้ว เหลือเพียง 618,000 คัน ซึ่งเป็นการร่วงลงรายเดือนที่รุนแรงที่สุดในรอบ 8 ปี เพราะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย
หากไม่นับรวมบริษัทในเครือ ยอดขายทั่วโลกเฉพาะโตโยต้าเพียงบริษัทเดียวก็ยังร่วงลง 23.8% ในเดือนพ.ย. โดยยอดขายรถยนต์โตโยต้าในสหรัฐดิ่งลง 33.9% ยอดขายในจีนลดลง 21.4%
ส่วนยอดขายรถยนต์โตโยต้าในญี่ปุ่นร่วงลงหนักสุดเป็นประวัติการณ์ 27.6%
การเปิดเผยยอดขายเดือนพ.ย.มีขึ้นหลังจากนายคัตซูอากิ วาตานาเบ้ ประธานบริหารโตโยต้า มอเตอร์ ออกแถลงการณ์คาดการณ์ว่า บริษัทอาจขาดทุน 1.5 แสนล้านเยนในปีงบการเงินปีนี้ซึ่งสิ้นสุด ณ เดือนมี.ค. ปีหน้า ซึ่งจะเป็นการขาดทุนครั้งแรกในรอบ 71 ปี หลังจากบริษัทได้กำไรมาโดยตลอด ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกชัดเจนว่าค่ายรถยนต์ที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งของโลกแห่งนี้ไม่สามารถรอดพ้นจากภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลก
หลังจากโตโยต้าคาดการณ์ตัวเลขขาดทุนได้ไม่นานก็มีข่าวว่า นายวาตานาเบ้อาจลาออกจากตำแหน่งในปีหน้า และคาดว่านายอาคิโอะ โตโยดะ รองประธานบริษัท และเป็นหลานชายของนายคิอิจิโร โตโยดะ ผู้ก่อตั้งโตโยต้า จะดำรงตำแหน่งประธานคนใหม่แทนในเดือนเม.ย. ปีหน้า หลังจากโตโยต้าได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย โดยนักวิเคราะห์กล่าวว่า การลาออกของนายวาตานาเบ้อาจเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อกรณีที่ต่อโตโยต้าถูกกระทบอย่างหนักจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ภาวะตลาดรถยนต์ทั่วโลกที่ตกต่ำรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษที่ 1990 อาจบีบให้โตโยต้า มอเตอร์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในเอเชีย ใช้มาตรการบางอย่างที่คาดไม่ถึง ซึ่งรวมถึงการปลดพนักงานเป็นครั้งแรกในรอบ 24 ปีนับตั้งแต่โตโยต้าเข้าไปสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ในสหรัฐอเมริกา เพื่อปรับลดต้นทุนการดำเนินงาน หลังจากที่โตโยต้าตัดสินใจระงับการผลิตที่โรงงานผลิตรถยนต์พรีอุสในรัฐมิสซิสซิปปี และมีแนวโน้มที่จะลดการผลิตรถยนต์ในสหรัฐและแคนาดาในปีหน้าด้วย สำนักข่าวเกียวโดรายงาน