ช็อปเปอร์แทร็ค อาร์ซีที ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยผู้บริโภคที่มีชื่อเสียงของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกในช่วงก่อนเทศกาลคริสต์มาสของสหรัฐร่วงลง 24% จากปีที่แล้ว แม้ห้างร้านในสหรัฐพยายามลดราคาสินค้าลงอย่างมาก แต่ก็ไม่สามารถดึงดูดผู้บริโภคให้จับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้วันหยุดในเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ของสหรัฐปีนี้อาจเป็นฤดูกาลที่เงียบเหงาที่สุดในรอบ 40 ปี
ช็อปเปอร์แทร็คระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้ผู้บริโภคไม่กล้าออกมาจับจ่ายใช้สอยเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำและการเลย์ออฟพนักงานของบริษัทเอกชนทำให้ตัวเลขว่างงานพุ่งสูงขึ้น โดยผู้บริโภคยังประหยัดการใช้จ่ายแม้ห้างร้านจำนวนมากพากันกระหน่ำลดราคาสินค้า ทางห้างเมซีย์ อิงค์ และห้างแซคส์ ลดราคาสินค้าถึง 70% แต่ก็ไม่สามารถดึงดูดลูกค้าได้ตามเป้า ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้อาจส่งผลกระทบอย่างหนักต่อธุรกิจค้าปลีกในสหรัฐ
สก็อต ครุ๊กแมน โฆษกสมาพันธ์ผู้ค้าปลีกแห่งชาติของสหรัฐ คาดการณ์ว่า ธุรกิจค้าปลีกหลังช่วงเทศกาลคริสต์มาสมีแนวโน้มย่ำแย่กว่าแต่ก่อน หากสถานการณ์เป็นเช่นนี้อาจทำให้วันศุกร์หลังเทศกาลคริสต์มาสปีนี้กลายเป็น "Black Friday" ที่เป็นเหมือนฝันร้านของธุรกิจค้าปลีก
ช็อปเปอร์แทร็คยังกล่าวด้วยว่า ยอดค้าปลีกเฉพาะในวันเสาร์ที่ 20 ธ.ค.หรือที่เรียกกว่า "Super Saturday" ลดลง 17% ซึ่งเป็นผลมาจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นกว่าปกติและผู้บริโภคประหยัดการใช้จ่าย เนื่องจากเศรษฐกิจถดถอย
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า ตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคเดือนพ.ย.ของสหรัฐลดลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน โดยปรับตัวลง 0.6% ขณะที่รายได้ของชาวอเมริกันลดลง 0.2% ในเดือนพ.ย.หลังเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนต.ค. สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน