เงินดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียว หลังจากที่ทางการสหรัฐรายงานตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคและยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ลดลงไม่มากเท่ากับที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้นักลงทุนลดความต้องการถือครองสกุลเงินที่ปลอดความเสี่ยงอย่างเงินเยนของญี่ปุ่น
โดยเงินดอลลาร์อาจแข็งค่าขึ้นหลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 วันเมื่อคืนที่ผ่านมาหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดการใช้จ่ายผู้บริโภคของสหรัฐร่วงลง 0.6% ในเดือนพ.ย. ซึ่งลดลงต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์จากโพลล์บลูมเบิร์กคาดว่าจะร่วงลง 0.7% เนื่องจากราคาน้ำมันเบนซินที่ปรับตัวลดลงได้ช่วยกระตุ้นให้ชาวอเมริกันจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น
ด้านเงินยูโรแข็งค่าเทียบปอนด์เมื่อวานนี้ หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจระบุว่า ราคาบ้านในอังกฤษส่อเค้าร่วงลงประมาณ 10% ในปีหน้า ขณะที่สกุลเงินรูเบิลของรัสเซียอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ในรอบเกือบ 2 ปี
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 8.38 น.ตามเวลาโตเกียว เงินดอลลาร์เคลื่อนไหวที่ระดับ 90.49 เยน/ดอลลาร์ หลังอ่อนค่าลง 0.6% เมื่อวานนี้ ขณะที่ นักวิเคราะห์คาดว่า เงินดอลลาร์จะเทรดกันในกรอบ 90.20 - 90.80 เยน/ดอลลาร์ เนื่องจากคาดว่าในวันนี้ปริมาณการซื้อขายที่ตลาดจะมีอยู่เพียงเบาบางเนื่องจากวันนี้ตรงกับวันคริสต์มาส
ด้านเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.1% แตะที่ 1.4004 ต่อยูโรหลังอ่อนค่าลง 0.6% เมื่อวานนี้ ขณะที่เงินเยนซื้อขายในระดับ 126.74 เมื่อเทียบกับเงินยูโร
"หากสหรัฐยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สร้างความประหลาดใจในเชิงลบออกมามากนัก เงินดอลลาร์จะยังคงแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน" มาซาฟูมิ ยามาโมโตะ นักวิเคราะห์จาก Royal Bank of Scotland Group Plc กล่าว "ขณะนี้ตลาดได้ซึมซับปัจจัยทางเศรษฐกิจในด้านลบของสหรัฐแล้ว"