ปธ.ซูซูกิแย้มค่ายรถญี่ปุ่นอาจควบกิจการ มุ่งตั้งกลุ่มบิ๊กทรีสัญชาติญี่ปุ่นรับมือศก.โลกตกต่ำ

นายโอซามุ ซูซูกิ ประธานของซูซูกิ มอเตอร์ คอร์ป บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ขนาดเล็กรายใหญ่อันดับ 2 ของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า บริษัทผู้ผลิตรถรายใหญ่ทั้งสามแห่งของญี่ปุ่นอาจควบรวมกิจการด้วยการจัดตั้งค่ายรถบิ๊กทรีสัญชาติญี่ปุ่น เพื่อแก้ปัญหาอุปสงค์ตกต่ำจากผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก

นายซูซูกิกล่าวให้สัมภาษณ์ในหนังสือพิมพ์นิกเกอิว่า "ความเคลื่อนไหวของค่ายรถบิ๊กทรีในสหรัฐที่อยู่ในภาวะวิกฤตจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ของญี่ปุ่นในช่วงเดือนกรกฏาคม หรือสิงหาคมปีหน้า"

โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นคาดว่า บริษัทอาจขาดทุนเป็นครั้งแรกในรอบ 71 ปี ส่วนฮอนด้า มอเตอร์ โคปรับลดคาดการณ์ผลกำไรเนื่องจากภาวะเศรษฐกิขชะลอตัวบั่นทอนให้อุปสงค์รถยนต์ซบเซา ขณะที่ค่ายรถฝั่งสหรัฐอย่างเจนเนอรัล มอเตอร์ คอร์ป, ฟอร์ด มอเตอร์ โค และไครสเลอร์ แอลแอลซี ได้ปรับลดกำลังการผลิตลง โดยจีเอ็มและไครสเลอร์ได้รับเงินกู้ฉุกเฉิน 1.34 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้

ทั้งนี้ ซูซูกิได้ปรับลดกำลังการผลิตรถยนต์ลง 10% เมื่อเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากอุปสงค์รถยนต์ทั้งในและต่างประเทศปรับตัวลดลง ขณะเดียวกันเมื่อวานนี้ โตโยต้าเปิดเผยว่า ผลผลิตทั่วโลกในเดือนที่ผ่านมาร่วงลง 27% ซึ่งดิ่งหนักสุดในรอบ 20 ปี หลังจากที่ผู้บริโภคในยุโรปและสหรัฐปรับลดการใช้จ่าย พร้อมทั้งมีการคาดหมายว่า ยอดขายรถยนต์ของญี่ปุ่นในปีหน้าอาจร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 31 ปี เนื่องจากปัจจัยด้านอัตราว่างงาน รวมทั้งประชากรวัยสูงอายุ และภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทำให้ไม่มีผู้ต้องการซื้อรถในช่วงเวลาดังกล่าว

ด้านสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า หุ้นกลุ่มยานยนต์ร่วงลงตามยอดขายที่ตกต่ำในปีนี้ โดยหุ้นโตโยต้าปรับตัวลดลง 54% หุ้นฮอนด้าดิ่งลง 51% และหุ้นซูซูกิทรุดฮวบลง 65%