รมว.พลังงาน คาดปี 52 ความต้องการใช้พลังงานยังโตได้ 1.9% ใกล้เคียงปีนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday December 25, 2008 16:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รมว.พลังงาน คาดปริมาณความต้องการใช้พลังงานในปี 52 จะขยายตัวในระดับ 1.9% ใกล้เคียงกับปี 51 เนื่องจากราคายังอยู่ในระดับต่ำ แต่คาดราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะเคลื่อนไหวในกรอบ 40-50 ดอลลาร์/บาร์เรล

นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน กล่าวว่า แนวโน้มการใช้พลังงานในปี 52 คาดว่าความต้องการใช้พลังงานขั้นต้นจะเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาน้ำมันจะเคลื่อนไหวที่ 40-50 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยความต้องการใช้น้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 3.3% ส่วนดีเซลเพิ่มขึ้น 2.7% เนื่องจากราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับต่ำ

ขณะที่การใช้ก๊าซหุงต้ม(LPG) จะเพิ่มขึ้น 6.1% โดยเฉพาะช่วงครึ่งปีหลังที่ราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้น แต่การใช้ LPG ในรถยนต์จะชะลอตัวลงเนื่องจากราคาน้ำมันลดลง ส่วนการใช้ก๊าซธรรมชาติจะสูงขึ้น 3.9% อยู่ที่ 3,850 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน เนื่องจากปีนี้มีแหล่งผลิตพลังงานใหม่ๆ เกิดขึ้นมาก นอกจากนี้ยังเตรียมเจรจาซื้อขายก๊าซธรรมชาติกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะพม่าจากแหล่งก๊าซฯ เอ็ม 9 ให้เพียงพอกับความต้องการใช้ในประเทศ

ส่วนการใช้ไฟฟ้าปีหน้าจะเพิ่ม 2.5% โดยคาดว่าการผลิตไฟฟ้าและการซื้อไฟฟ้าของ กฟผ.จะเพิ่มขึ้น 2.2% หรือคิดเป็นปริมาณ 150,458 กิกกะวัตต์ชั่วโมง โดยเฉพาะการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ ส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานน้ำ น้ำมันเตา และการนำเข้าไฟฟ้าจะลดลงตามแผนพีดีพีของ กฟผ.

รมว.พลังงาน ยังกล่าวถึงกรณีที่นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี มีนโยบายไม่ส่งเสริมการนำก๊าซธรรมชาติมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในรถยนต์บ้าน รวมถึงไม่สนับสนุนให้สร้างสถานีบริการเอ็นจีวีในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่ากระทรวงพลังงานมีความเห็นอย่างไรกับนโยบายดังกล่าว เนื่องจากเป็นช่วงของการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ต้องรอให้มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29 ธ.ค.นี้ก่อน หลังจากนั้นคณะรัฐมนตรีจึงจะทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์

อย่างไรก็ตาม หลังจากแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้วกระทรวงพลังงานจะไปหารือกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) เพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับการส่งเสริมเอ็นจีวีแล้วจะชี้แจงให้ประชาชนได้ทราบต่อไป

ด้านนายวีระพล จิรประดิษฐ์กุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) กล่าวว่า ภาพรวมการใช้พลังงานในปี 51 อยู่ที่ระดับ 1,639 บาร์เรล/วัน หรือเพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยการนำเข้าพลังงานมีมูลค่ารวม 1,239,314 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.8% จากปีก่อน ขณะที่การส่งออกมีมูลค่า 348,614 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 68.4% จากปีก่อน

ทั้งนี้ ในส่วนของน้ำมันดิบมีปริมาณการนำเข้าเพิ่มขึ้น 2.6% แต่ในแง่มูลค่าเพิ่มขึ้น 49.6% เนื่องจากในช่วงครึ่งปีแรกราคาน้ำมันดิบมีความผันผวน และปรับตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ระดับ 140.77 ดอลลาร์/บาร์เรลในเดือน ก.ค.51 ก่อนทยอยปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 40 ดอลลาร์/บาร์เรลในปัจจุบัน

สำหรับน้ำมันเบนซินปีนี้มีปริมาณการใช้ลดลง 4.1% มาอยู่ที่ 121,000 บาร์เรล/วัน และดีเซลลดลง 6.3% อยู่ที่ 47.9 ล้านลิตร/วัน ขณะที่แก๊สโซฮอล์และไบโอดีเซลมีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้น โดยถึงเดือน ธ.ค.51 แก๊สโซฮอล์มียอดจำหน่ายอยู่ที่ 11.65 ล้านลิตร/วัน และไบโอดีเซล 16.5 ล้านลิตร/วัน ส่วนก๊าซแอลพีจีการใช้เพิ่มขึ้น 20.7% สูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลา 3 ปี โดยการใช้แอลพีจีในภาคขนส่งเพิ่มขึ้นถึง 35.2% เนื่องจากราคาน้ำมันเบนซินที่อยู่ในระดับสูง ทำให้ประชาชนหันมาใช้แอลพีจีเพิ่มขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ