นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้ให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมทั้งหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจสรุปผลประกอบการขององค์กร และนำมาเสนอมาภายในวันที่ 29 ธ.ค.นี้ เพื่อใช้สำหรับเปรียบเทียบผลงานหลังจากที่เข้ารับตำแหน่ง และจะมีการติดตามประเมินผลการดำเนินงานทุกๆ 3-6 เดือน เพราะเห็นว่าการใช้ผลประกอบการมาประเมินผลงานจะมีความชัดเจน และเป็นรูปธรรม สามารถตรวจสอบผลงาน
"ถือเป็นความกล้าหาญที่จะใช้ผลประกอบการเป็นตัวชี้วัด เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจชะลอตัว และคาดว่าในอนาคตเศรษฐกิจจะตกต่ำกว่านี้ " นายโสภณ กล่าว
ส่วนหน่วยงานหลายแห่งที่ประสบปัญหาขาดทุน เช่น องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) หากยังประสบปัญหาขาดทุนอยู่ ก็ต้องมีเหตุผลที่สามารถชี้แจงได้ว่าทำไมถึงขาดทุน ไม่ใช่ปล่อยให้ขาดทุนโดยที่ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นภายในหน่วยงาน
สำหรับหน่วยงานที่ตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดว่างอยู่ รมว.คมนาคม กล่าวว่า กระบวนการสรรหาจะเดินหน้าตามขั้นตอน พร้อมจะเร่งรัดการสรรหากรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. ซึ่งว่างอยู่ระยะหนึ่งแล้ว และเชื่อว่าหลังจากมีการจัดตั้งรัฐบาล การเมืองมั่นคง การสรรหาและการทำงานก็ต้องเดินหน้า
ปัจจุบัน หน่วยงานที่ตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดว่างอยู่ ได้แก่ ทอท., การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.), การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.), สถาบันการบินพลเรือน (สบพ.) และ บมจ.การบินไทย (THAI)