หนังสือพิมพ์คอมเมอเชียล ไทมส์ของจีนรายงานในวันนี้ว่า รัฐบาลจีนประกาศใช้มาตรการสนับสนุนภาคเอกชนให้เข้าลงทุนในไต้หวัน โดยเฉพาะในธุรกิจการเงิน อสังหาริมทรัพย์ สื่อสารโทรคมนาคม เทคโนโลยี พลังงานแสงอาทิตย์ และอุตสาหกรรมสาธารณูปโภคพื้นฐาน
นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการให้ไต้หวันเป็นแหล่งการลงทุนที่ถูกต้องตามกฎหมายของบริษัทจีน ขณะที่ไต้หวันขานรับมาตรการดังกล่าว พร้อมกับขึ้นทะเบียนรายชื่อบริษัทจีนที่เข้ามาลงทุนในไต้หวัน และจะจัดการประชุมระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนและไต้หวันในช่วงต้นปีหน้านี้
ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและไต้หวันแนบแน่นขึ้นทั้งในด้านการเมืองและการค้า นับตั้งแต่นายหม่า อิง จิว ก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีไต้หวัน โดยทันทีที่นายหม่า อิง จิว คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันเมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา ดัชนีเวทเต็ดทะยานก็ขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกว่า นายหม่าจะผ่อนปรนกฏข้อบังคับด้านการขนส่งทางอากาศ ทางเรือ และการสื่อสารไปรษณีย์กับจีน หลังจากไต้หวันประกาศใช้กฏคุมเข้มมาตั้งแต่ปี 2552
"ผลการเลือกตั้งในไต้หวันได้เปลี่ยนแปลงบรรยากาศการลงทุนอย่างสิ้นเชิง นักลงทุนมั่นใจว่า นายหม่าจะสามารถทำให้ไต้หวันและจีนมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น และจะช่วยสร้างเสถียรภาพด้านการเมืองในภูมิภาค" นิโคล ซู นักวิเคราะห์จากแบงค์ จูเลียส แบร์ แอนด์ โค กล่าว
ขณะที่คลอเดีย พรีออง หัวหน้าแผนกวิจัยด้านปริวรรตเงินตราในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของเจพีมอร์แกนกล่าวว่า "ก่อนหน้านี้นักลงทุนมองว่าจีนเป็นภัยคุกคามและพากันปลีกตัวออกจากตลาดไต้หวัน แต่ขณะนี้นักลงทุนส่วนใหญ่เปลี่ยนมุมมองเก่าๆโดยสิ้นเชิงหลังจากนายหม่าชนะการเลือกตั้ง และหันเข้าลงทุนในตลาดไต้หวันมากขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อสกุลเงินดอลลาร์ไต้หวันและดอลลร์ไต้หวัน" สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน