บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด คาดว่าช่วงเทศกาลปีใหม่นี้จะมีนักท่องเที่ยวคนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศช่วงวันหยุดไม่ต่ำกว่า 2.6 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 8% ก่อให้เกิดเม็ดเงินรายได้ด้านการท่องเที่ยวสะพัดสู่ธุรกิจสำคัญๆคิดเป็นมูลค่าประมาณ 14,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4%
เหตุที่เป็นแรงหนุนสำคัญให้การท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้นจากปีก่อน เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง การที่มีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งจะได้เร่งดำเนินการแก้ไขภาพลักษณ์ด้านความสงบและความปลอดภัยภายในประเทศเพื่อเรียกความเชื่อมั่น ประกอบกับปีใหม่ปีนี้เป็นวันหยุดติดต่อกัน 5 วัน
ทั้งนี้เม็ดเงิน 14,600 ล้านบาทที่คาดว่าจะสะพัดช่วงปีใหม่นี้ คาดว่าสัดส่วน 28% คิดเป็นเม็ดเงินประมาณ 4,100 ล้านบาท มีแนวโน้มสะพัดสู่ธุรกิจด้านที่พักแรม โดยเฉพาะโรงแรมและรีสอร์ตระดับ 2-3 ดาว ส่วน 19% หรือคิดเป็นเม็ดเงินประมาณ 2,800 ล้านบาท มีแนวโน้มสะพัดสู่ธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหารประเภทต่างๆ
ส่วน 14% หรือคิดเป็นเม็ดเงินประมาณ 2,000 ล้านบาท มีแนวโน้มสะพัดสู่ธุรกิจจำหน่ายสินค้าของที่ระลึกนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะสินค้าอาหารพื้นเมืองตามท้องถิ่น อีก 14% เช่นกัน คิดเป็นเม็ดเงินประมาณ 2,000 ล้านบาท มีแนวโน้มสะพัดสู่ธุรกิจด้านคมนาคมขนส่งทั้งธุรกิจการบิน รถไฟ รถบขส.และรถเช่า อีก 12% คิดเป็นเม็ดเงินประมาณ 1,800 ล้านบาท มีแนวโน้มสะพัดสู่ธุรกิจด้านบันเทิง รวมทั้งบริการสปา และกีฬาประเภทต่างๆ และที่เหลือ 8% คิดเป็นเม็ดเงินประมาณ 1,200 ล้านบาท มีแนวโน้มสะพัดสู่ธุรกิจบริการนำเที่ยวในประเทศ รวมทั้งมัคคุเทศก์
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่า แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยม ได้แก่ แหล่งท่องเที่ยวชายทะเลทั้งแถบอันดามัน(ภูเก็ต, กระบี่ และพังงา), แถบฝั่งอ่าวไทย(สมุย, ชุมพร และประจวบคีรีขันธ์) และชายฝั่งทะเลแถบตะวันออก (พัทยา, บางแสน และตราด)
แหล่งท่องเที่ยวตามยอดภูและยอดดอยในภาคเหนือ (เชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน) และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(เลย, ขอนแก่น, เพชรบูรณ์ และนครราชสีมา)โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดนครราชสีมา (มวกเหล็ก และปากช่อง) และเพชรบูรณ์ (เขาค้อ) กำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวคนไทยอย่างมาก เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนัก
แหล่งท่องเที่ยวตามอุทยานแห่งชาติ ซึ่งปีนี้แต่ละแห่งมีการบริหารจัดการพื้นที่ให้บริการกางเต็นท์ที่พักแรมเพิ่มขึ้น ทำให้สามารถรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวได้เพิ่มขึ้นอีกเกือบเท่าตัว เช่น อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ และอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม รวมถึงรีสอร์ตขนาดเล็กที่มีอัตราค่าห้องพักไม่สูง มีแนวโน้มขยายตัวรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไปท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวที่ให้บริการที่พักในรูปโฮมสเตย์ เช่น อ.วังน้ำเขียว