สำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐในเดือนธ.ค.ร่วงลงแตะระดับ 38 จุด จากเดือนพ.ย.ที่ 44.7 จุด และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์บลูมเบิร์กคาดว่าจะอยู่ที่ 45 จุด
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐดิ่งลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนธ.ค.เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจหดตัวและตัวเลขว่างงานี่พุ่งสูงขึ้นส่งผลให้ผู้บริโภคลดการจับจ่ายใช้สอยและมีความกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจในปีหน้า
สก็อต ฟูลแมน นักวิเคราะห์จากบริษัท ดับเบิ้ลยูเจบี แคปิตอล กรุ๊ป กล่าวว่า "ภาวะเศรษฐกิจถดถอยส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวล ขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งเหวถ้วนหน้าในปีนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์ทรุดตัวลงไปแล้วถึง 36.2% ซึ่งเป็นสถิติที่ร่วงลงรุนแรงสุดนับตั้งแต่ปีพ.ศ.2474 ส่วนตัวเลขจ้างงานทรุดตัวลงอย่างหนักในครึ่งหลังของปีนี้ สวนทางกับที่เคยปรับตัวสูงขึ้นในช่วงต้นปี สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐต้องใช้ "ยาแรง" จึงจะสามารถเยียวยาเศรษฐกิจในระยะยาวได้"
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 หดตัวลง 0.5% มากกว่าที่คาดว่าจะหดตัวเพียง 0.3% และเป็นสถิติที่หดตัวลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 ของปีพ.ศ.2544 ซึ่งเป็นผลมาจากผู้บริโภคลดการจับจ่ายใช้สอย สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน