ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐประจำเดือนธ.ค. 2551ทรุดตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 28 ปี จากผลกระทบของอุปสงค์ที่ซบเซาในกลุ่มสินค้าประเภทรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก ซึ่งตัวเลขเศรษฐกิจดังกล่าวเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า โรงงานหลายแห่งจะปรับลดการผลิตและปลดพนักงานอีกหลายตำแหน่งในปี 2552
สำนักงานจัดการอุปทาน (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 32.4 จุดในเดือนธ.ค. จากระดับ 36.2 จุดในเดือนพ.ย. ซึ่งดิ่งลงหนักกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 35.5 จุด มาร์ก วิทเนอร์ นักวิเคราะห์จากวาโชเวีย คอร์ป กล่าวให้สัมภาษณ์กับบลูมเบิร์กว่า "รายงานตัวเลขเศรษฐกิจทุกฉบับล้วนบ่งชี้ถึงภาวะความอ่อนแอทางเศรษฐกิจที่กำลังจะเกิดขึ้นในปีนี้ และบริษัทหลายแห่งต้องเตรียมลดกำลังการผลิตลงอีกเนื่องจากผู้บริโภคปรับลดการใช้จ่าย"
ทั้งนี้ ดัชนีภาคการผลิตที่มีรายงานออกมาครั้งล่าสุดเป็นข้อมูลที่ตอกย้ำให้เห็นถึงภาวะอุปสงค์ภาคเอกชนที่ซบเซา ขณะที่บรรดาผู้ประกอบการต่างตั้งความหวังว่านายบารัค โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐจะมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้ผล
อย่างไรก็ตาม แม้ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐในเดือนธ.ค.จะร่วงลงอย่างหนักเป็นประวัติการณ์ แต่ความเคลื่อนไหวดังกล่าวกลับไม่มีปฏิกิริยาต่อภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กที่พุ่งสูงขึ้นเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นวันที่ตลาดเปิดทำการซื้อขายวันแรกของศักราชใหม่ประจำปี 2552