ฟิลิปปินส์กำลังพิจารณาข้อเสนอการเปิดขายพันธบัตรต่างประเทศเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของรัฐบาลมากขึ้น และเพื่อสกัดกั้นตัวเลขขาดดุลบัญชีที่พุ่งสูงขึ้น
โรเบอร์โต้ แทน รัฐมนตรีคลังฟิลิปปินส์เปิดเผยกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า รัฐบาลได้รับข้อเสนอเรื่องการเปิดขายตราสารหนี้ต่างประเทศจากธนาคาร 7 แห่ง อาทิ เครดิต สวิส กรุ๊ป เอจี, ดอยช์ แบงก์ เอจี และยูบีเอส เอจี ซึ่งเรากำลังประเมินข้อเสนอดังกล่าวแต่ยังไม่ได้ตัดสินใจถึงรายละเอียดในส่วนของจำนวน วิธีการ ราคา และช่วงเวลาที่จะเริ่มดำเนินการ
โดยเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา กลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ประกาศแผนการขายตราสารหนี้ต่างประเทศในวงเงิน 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2552 เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจและเพิ่มปริมาณเงินหมุนเวียนในระหว่างที่ทั่วโลกเผชิญวิกฤตสินเชื่อ
รัฐบาลฟิลิปปินส์คาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลการค้าจะขยายตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 4 ปีที่ระดับ 1.02 แสนล้านเปโซ (2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปีนี้ จากที่คาดการณ์ไว้ในระดับ 7.5 หมื่นล้านเปโซในปี 2551 จากผลกระทบของรายได้การส่งออกที่ลดน้อยลงอันสืบเนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจชะลอตัว
ทั้งนี้ ไอเอ็นจีระบุว่า มูลค่าพันธบัตรในรูปสกุลเงินดอลลาร์ระยะ 25 ปีร่วงลง 4% มาอยู่ที่ 6.72% หลังจากพุ่งขึ้น 10.73% ในเดือนต.ค.