พาณิชย์ยันข้าวไทยไร้เชื้อรา คาดปัญหาเกิดตอนขนส่ง-เก็บรักษาในญี่ปุ่นเอง

ข่าวเศรษฐกิจ Monday January 5, 2009 16:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกฤษฎา เปี่ยมพงศ์สานต์ โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีที่ญี่ปุ่นตรวจพบสารอะฟลาท็อกซิน บี 1 ในข้าวที่นำเข้าจากไทยเพื่อเป็นวัตถุดิบผลิตอาหารแปรรูปว่า สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครโอซากา ได้ชี้แจงว่าข้าวนำเข้าจากไทยที่กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงของญี่ปุ่นตรวจพบสารอะฟลาท็อกซิน บี 1 ซึ่งเป็นเชื้อราชนิดที่รุนแรงนั้น เป็นข้าวที่ไทยส่งออกไปญี่ปุ่นเมื่อเดือนมิ.ย.51 แต่ญี่ปุ่นเพิ่งตรวจพบเมื่อเดือนต.ค.51 ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า สารดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการขนส่งและเก็บรักษาในประเทศญี่ปุ่นเอง เช่น โดนเกล็ดหิมะหรือละอองฝน

"ไม่รู้ว่าเกิดเชื้อราขึ้นตั้งแต่เมื่อไร อาจเกิดขึ้นที่ญี่ปุ่นหรือระหว่างการขนส่งก็ได้ เพราะไทยส่งออกข้าวล็อตนั้นตั้งแต่เดือนมิ.ย. แต่ญี่ปุ่นเพิ่งพบเมื่อเดือนต.ค. หลังจากที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้ขายข้าวดังกล่าวให้กับผู้ผลิตอาหารแปรรูปในประเทศ และผู้ผลิตรายนั้นตรวจพบ จึงยังบอกไม่ได้ว่าเกิดขึ้นในกระบวนการใด ส่วนจะเป็นเหตุให้ญี่ปุ่นห้ามนำเข้าหรือไม่นั้น ยังไม่ทราบ แต่การห้ามนำเข้าจะต้องมีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ และระบุล็อตที่มีปัญหาอย่างชัดเจนด้วย" นายกฤษฎา กล่าว

นายกฤษฎา กล่าวว่า ปัจจุบันก่อนการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารต่างๆ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทยจะต้องตรวจสอบอย่างเข้มงวดอยู่แล้ว ทั้งสารเคมีตกค้าง เชื้อโรค และสารปนเปื้อนในผักสด เมื่อพบว่าไม่มีสารใดๆ ตกค้างหรือเชื้อโรคปนเปื้อนจึงออกใบรับรองความปลอดภัยให้ส่งออกได้ อย่างไรก็ตามได้เตือนให้ผู้ส่งออกระมัดระวังตรวจสอบสินค้าอาหารและเกษตรก่อนส่งออกให้ดี เพื่อรักษามาตรฐานสุขอนามัยและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค

ด้านนายวิจักร วิเศษน้อย ที่ปรึกษากระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวยังตรวจสอบไม่ได้ว่าเกิดขึ้นในช่วงใด และยังพบในปริมาณน้อยมากเพียง 0.04 ppm หรือเกือบจะเป็นศูนย์ อีกทั้งในการนำเข้านั้นญี่ปุ่นได้ตรวจสอบสารเคมีในสินค้าเกษตรอย่างเข้มงวดมาก 500-600 ชนิด แต่ที่น่าแปลกใจคือเหตุใดเพิ่งจะมีข่าวหลังจากการนำเข้านานแล้วหลายเดือน

"ผมตั้งข้อสังเกตว่า ญี่ปุ่นตรวจสอบสารเคมีตกค้างในสินค้าเกษตรนำเข้าอย่างเข้มงวด หากพบว่ามีตกค้างจะไม่อนุญาตให้นำเข้าเลย แต่กรณีของไทยพบเมื่อเดือนต.ค. หลังจากการนำเข้านานหลายเดือน จึงอาจเป็นไปได้ว่าสารที่พบไม่ได้เกิดจากประเทศไทย ผู้ส่งออกไทยระมัดระวังมากอยู่แล้ว โดยเฉพาะการส่งออกไปญี่ปุ่นที่เข้มงวดมาก แต่เป็นได้ว่าอาจเกิดขึ้นในขั้นตอนการขนส่งหรือการเก็บรักษา ซึ่งยังไม่มีความชัดเจน ต้องตรวจสอบก่อน" นายวิจักร กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ