สจ๊วต แอนเดอร์สัน ผู้อำนวยการบริหารสำนักงานนโยบายแห่งชาติของสหรัฐเปิดเผยว่า พนักงานชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในสหรัฐอเมริกา กำลังตกอยู่ในภาวะระส่ำระสาย เนื่องจากอัตราว่างงานในสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงในขณะนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพนักงานที่ได้รับวีซ่าแบบชั่วคราวที่พยายามขอคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเกี่ยวกับข้อกำหนดที่จะช่วยให้พวกเขาสามารถอยู่หางานทำต่อไปในสหรัฐได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
แอนเดอร์สันกล่าวว่า ชาวต่างชาติจำนวนมากเดินทางมายังสหรัฐเพื่อศึกษาให้จบระดับปริญญาตรีพร้อมกับหางานทำไปด้วย แต่เมื่อเศรษฐกิจภายในประเทศเข้าสู่ภาวะถดถอยและภาคเอกชนปลดพนักงานออกเป็นจำนวนมาก ชาวต่างชาติเหล่านี้จึงได้รับผลกระทบอย่างหนัก รวมถึงชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาทำงานเพื่อหวังจะได้กรีนการ์ดก็ตกอยู่ในภาวะตื่นตระหนกด้วย เพราะเมื่อเศรษฐกิจถดถอยลง โอกาสที่พวกเขาจะได้รับกรีนการ์ดก็ริบหรี่ลงด้วยเช่นกัน
ไมเคิล เฟโรลี หัวหน้านักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกน คาดว่า ตัวเลขว่างงานในสหรัฐปีพ.ศ.2551 อาจพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 63 ปี เนื่องจากบริษัทรับสร้างบ้าน, บริษัทรถยนต์, ธนาคารพาณิชย์ และบริษัทค้าปลีก ได้ปลดพนักงานจำนวนมากเพราะถูกกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย
เฟโรลี คาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐประจำเดือนธ.ค.จะร่วงลง 500,000 ราย ซึ่งจะทำให้ตัวเลขจ้างงานตลอดปี 2551 ลดลงสู่ระดับ 2.4 ล้านคน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 60 ปี โดยกระทรวงแรงงานจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานเดือนธ.ค.ในวันศุกร์ที่ 9 ม.ค.นี้ และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนธ.ค.จะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี
"ตัวเลขว่างงานที่ร่วงลงอย่างรุนแรงจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันบารัค โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ให้ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกหลายรอบ รวมถึงมาตรการกระตุ้นการจ้างงาน เพื่อยับยั้งเศรษฐกิจไม่ให้ถดถอยรุนแรง นอกจากนี้ โอบามายังต้องเจอโจทย์หินในเรื่องการฟื้นฟูตลาดอสังหาริมทรัพย์ ภาคการผลิต และภาคบริการ ที่ทรุดตัวลงอย่างหนักเมื่อปีที่แล้ว" เฟโรลีกล่าว
หนึ่งในความท้าทายที่ใหญ่หลวงที่สุดของชาวต่างชาติที่ถูกเลย์ออฟในสหรัฐคือ ความกังวลที่ว่าตนเองจะไม่ได้รับระยะเวลาผ่อนปรน (grace period) ให้อยู่ในสหรัฐได้ต่อไปอีกระยะหนึ่ง จึงทำให้ชาวต่างชาติกลุ่มนี้ดิ้นรนที่จะยื่นขอวีซ่าประเภทอื่นๆ อาทิ วีซ่านักท่องเที่ยวแบบ 6 เดือน เพียงเพื่อที่จะซื้อเวลาในการหางานทำต่อไป สำนักข่าวเอพีรายงาน