ผู้นำประเทศในแถบยุโรปและรัสเซียจัดการประชุมเมื่อวานนี้ เพื่อหาทางปลดชนวนความขัดแย้งระหว่างบริษัท ก๊าซพรอม (Gazprom) ของรัสเซีย และบริษัท นาฟโทก๊าซ ยูเครนี (Naftogaz Ukrainy) ซึ่งเป็นบริษัทของรัฐบาลยูเครน โดยนายอเล็กซีย์ มิลเลอร์ ซีอีโอของก๊าซพรอมก็ได้หารือกับนายวลาดิเมียร์ ปูติน นายกรัฐมนตรีรัสเซีย
ความขัดแย้งระหว่างบริษัทด้านพลังงานสัญชาติรัสเซียและยูเครนจนทำให้รัสเซียยุติการจัดส่งก๊าซให้กับยูเครนโดยสิ้นเชิงนี้เกิดขึ้นเนื่องจากก๊าซพรอมได้กล่าวหาบริษัทของยูเครนว่าลักลอบขโมยก๊าซและไม่ได้จ่ายเงินตามกำหนด ซึ่งความขัดแย้งครั้งนี้ส่งผลกระทบต่ออุปทานก๊าซธรรมชาติที่มีการจัดส่งไปยังทวีปยุโรป
ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ผู้นำกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป หรือ อียู ได้ประชุมกับเจ้าหน้าที่ของยูเครนที่กรุงเคียฟ ส่วนซีอีโอของก๊าซพรอมก็จับคู่ประชุมกับนายกฯรัสเซีย
เซอร์ไก คูพรียานอฟ โฆษกของก๊าซพรอม กล่าวว่า ยูเครนไม่ปฏิบัติตามสัญญาการลำเลียงก๊าซฉบับปัจจุบัน ซึ่งจะหมดอายุในปี 2553 โดยอ้างว่าสัญญาละเมิดกฎข้อบังคับในฐานะประเทศที่เป็นทางผ่านของการลำเลียงก๊าซ และจะไม่ตอบสนองต่อข้อเสนอประนีประนอมของก๊าซพรอมเพื่อที่จะแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ทางด้านนาฟโทก๊าซได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาผ่านทางแถลงการณ์ และเรียกร้องให้ก๊าซพรอมกลับมาจัดส่งก๊าซตามปกติในทันที
ทั้งนี้ ก๊าซพรอม รัฐวิสาหกิจด้านพลังงานของรัสเซีย ได้ยุติการจัดส่งก๊าซให้กับยูเครนโดยสิ้นเชิงในช่วงเช้าวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา โดยโฆษกของก๊าซพรอมกล่าวว่า ทางบริษัทได้ยุติการจัดส่งก๊าซจำนวน 90 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งเท่ากับปริมาณการบริโภค 100% ของยูเครน อย่างไรก็ตาม โฆษกกล่าวว่า ก๊าซพรอมจะยังคงเดินหน้าจัดส่งก๊าซให้กับผู้บริโภคในยุโรปอย่างเต็มกำลังเท่าเดิม ที่ปริมาณ 300 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน
โดยเมื่อวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา อเล็กซีย์ มิลเลอร์ ประธานก๊าซพรอม กล่าวว่า บริษัทได้ยุติการจัดส่งก๊าซไปยังยูเครน เนื่องจากไม่สามารถตกลงกันได้เรื่องการชำระหนี้และการทำสัญญาฉบับใหม่สำหรับปี 2552 ก๊าซพรอมกล่าวว่า ยูเครนติดหนี้บริษัทอยู่มากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากการนำเข้าก๊าซ ขณะที่ยูเครนกล่าวว่า ได้โอนเงิน 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐให้รัสเซียแล้ว แต่มิลเลอร์กล่าวว่า ตรวจสอบบัญชีของก๊าซสพรอมแล้ว ไม่เห็นว่ามีการโอนเงินเข้าแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ก๊าซพรอมยืนกรานให้ยูเครนจ่ายค่าก๊าซในราคา 418 ดอลลาร์ต่อก๊าซ 1,000 ลูกบาก์เมตรในปีใหม่นี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นสองเท่าจากราคาในปี 2551 ก่อนที่จะยอมลดราคาลงมาอยู่ที่ 250 ดอลลาร์ แต่ทางฝั่งยูเครนก็ยังเห็นว่าเป็นราคาที่สูงไปอยู่ดี