ในขณะที่กระแสการลดจำนวนพนักงานลุกลามไปทั่วโลก จีนได้ใช้มาตรการเชิงรุก เพื่อบรรเทาปัญหาการลดพนักงาน โดยให้คำมั่นว่าจะกระตุ้นการจ้างงานในปีนี้ หลังจากที่วิกฤตการเงินโลกที่ยังคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนและบีบให้หลายองค์กรลดจำนวนพนักงานลง
มณฑลที่ได้รับผลกระทบและพยายามสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดแรงงาน ได้แก่ มณฑลที่ตั้งอยู่ในบริเวณลุ่มแม่น้ำแยงซี ซึ่งอยู่ทางใต้ของจีนและเป็นศูนย์กลางการผลิตรายใหญ่นั้นเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยจำนวนตำแหน่งงานในภาคการผลิตอยู่ที่ 41.43% ของอัตราตำแหน่งงานทั้งหมดในมณฑลเจอเจียงทางภาคตะวันออกเมื่อไตรมาส 3 ปีที่แล้ว นับเป็นสถิติที่ต่ำเป็นประวัติการณ์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
มณฑลเจียงซูก็เป็นอีกพื้นที่ที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์เดียวกัน โดยจำนวนตำแหน่งงานในภาคการผลิตในพื้นที่มีแค่ 50.15% ของตำแหน่งงานทั้งหมด ลดลงไป 0.94% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว และลดลง 4.16% จากระดับไตรมาส 2
เพื่อเป็นการรองรับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก มณพลในแถบลุ่มแม่น้ำแยงซีได้จัดตั้งระบบเตือนภัยขึ้นมา เพื่อติดตามสถานการณ์ในตลาดแรงงาน และยังถูกออกแบบมาเพื่อให้สำนักงานประกันสังคมและแรงงานระดับภูมิภาคได้รวบรวมข้อมูลการจ้างงาน เช่น แนวโน้มการลดคนงานและการรับพนักงานใหม่ในช่วงสัปดาห์ข้างหน้าและจำนวนพนักงานที่ถูกลดลงไปจริงๆ โดยมีการนำระบบดังกล่าวมาใช้ในเมืองต่างๆ 6 เมืองนำร่องแล้ว อาทิ เมืองนานจิง หังโจว และหนิงโป
มณฑลเจอเจียงนั้น จะติดตั้งระบบติดตามในเมืองต่างๆ 11 เมืองปีนี้ และเมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว มณฑลเจอเจียงก็ได้ลดการจัดเก็บกองทุนประกันสังคม เพื่อบรรเทาภาระของพนักงาน
นอกจากนี้ จีนยังจะกระตุ้นให้ประชาชนในแต่ละภูมิภาคทำธุรกิจ โดยมณฑลเจียงซูและเจอเจียงก็ให้คำมั่นว่าจะเริ่มใช้มาตรการที่เหมาะสม เช่น การฝึกอบรมทักษะแก่พนักงานที่ถูกปลดจากตำแหน่งโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
สำหรับเซี่ยงไฮ้นั้นก็ได้เปิดตัวโครงการให้เงินอุดหนุนแก่นักศึกษาจบใหม่และแรงงานอพยพเพื่อเข้ารับฝึกอบรมทักษะการทำงาน และเมื่อวันที่ 30 ธ.ค.ที่ผ่านมา ก็ได้มีการจัดตั้งฐานบริการด้านการจ้างงานเป็นแห่งแรกในเซี่ยงไฮ้เพื่อให้บริการนักศึกษาจบใหม่ได้มีประสบการณ์จากการเข้าฝึกงาน
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่ต่างมองว่า ไตรมาสแรกของปีนี้ ตลาดแรงงานจะเผชิญกับสถานการณ์ที่ลำบาก เนื่องจากวิกฤตการเงินโลกยังคงลุกลามไปอย่างต่อเนื่อง สำนักข่าวซินหัวรายงาน