กรมศุลกากรจีนคาดการณ์ว่ายอดนำเข้าและส่งออกยานยนต์จะชะลอตัวลงอีกในปีนี้ หลังตลาดยานยนต์ทั้งในประเทศและต่างประเทศกำลังอยู่ในภาวะซบเซาหนัก
ข้อมูลสถิติของกรมศุลกากรจีนระบุว่า ในช่วงเดือนม.ค. - พ.ย. 2551 จีนนำเข้ายานยนต์ 373,000 คัน มูลค่า 1.387 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 35.6% และ 45% ตามลำดับเมื่อเทียบเป็นรายปี
ในขณะเดียวกัน ยอดนำเข้ายานยนต์ในเดือนพ.ย.ขยายตัวเพียง 3.2% แตะ 33,000 คัน หรือขยายตัวน้อยกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้าถึง 39.2% ด้านมูลค่าการนำเข้าก็ลดลง 2.8% เหลือ 1.17 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 2 ปี
รายงานดังกล่าวยังระบุว่า ตลาดยานยนต์ต่างประเทศที่ซบเซาได้ส่งผลกระทบมาถึงตลาดยานยนต์จีน โดยในเดือนพ.ย.ยอดขายรถยนต์โดยสารในจีนลดลงกว่า 10.3% ในขณะที่บริษัทผลิตยานยนต์ 22 แห่งรายงานว่ามียอดขายร่วงลงกว่า 16% ซึ่งถือว่าร่วงหนักสุดในรอบ 6 ปี
ด้านยอดส่งออกยานยนต์ก็ได้รับผลกระทบจากตลาดยานยนต์โลกที่ซบเซาอันเป็นผลมาจากวิกฤตการเงินครั้งใหญ่ นอกจากนั้นลูกค้ารายสำคัญอย่างสหภาพยุโรป ตะวันออกกลาง และอเมริกาใต้ ยังเพิ่มข้อกำหนดในการนำเข้ายานยนต์ ทำให้ผู้ส่งออกยานยนต์จีนได้รับแรงกดดันอย่างหนัก
ในขณะเดียวกัน เทคโนโลยีด้านยานยนต์ของจีนก็ยังด้อยกว่าประเทศพัฒนาแล้วอีกหลายประเทศ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวยิ่งทำให้การส่งออกยานยนต์ของจีนไม่สามารถขยายตัวได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง
กรมศุลกากรรายงานว่า ในช่วงเดือนม.ค. - พ.ย. 2551 จีนส่งออกยานยนต์ 609,000 คัน มูลค่า 8.26 พันล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้น 18.7% และ 42.7% ตามลำดับเมื่อเทียบเป็นรายปี แต่ร่วงลง 59.5% และ 81.5% ตามลำดับเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2550
ยอดส่งออกยานยนต์จีนหดตัวลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันตั้งแต่เดือนส.ค. - พ.ย. 2551 โดยในเดือนพ.ย.ร่วงลงกว่า 47% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะระดับต่ำสุดในรอบ 20 เดือนที่ 33,000 คัน สำนักข่าวซินหัวรายงาน