ผลการสำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ซึ่งจัดทำโดยสำนักข่าวซินหัวระบุว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่า อังกฤษจะไม่หันไปใช้สกุลเงินยูโรในระยะใกล้นี้ แม้การอ่อนค่าลงของสกุลเงินปอนด์ได้จุดกระแสคาดการณ์ว่า อังกฤษมีแนวโน้มจะหันไปใช้สกุลเงินยูโรซึ่งเป็นเงินสกุลเดี่ยวที่หลายประเทศในยุโรปใช้ร่วมกัน
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า การใช้สกุลเงินปอนด์ต่อไปจะช่วยให้อังกฤษสามารถพยุงเศรษฐกิจให้ขยายตัวต่อไปได้ โดยเชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เกิดขึ้นกับอังกฤษในเวลานี้จะเป็นเพียงสถานการณ์ระยะสั้นๆ และค่าเงินปอนด์จกสามารถฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรได้อีกครั้งในอีก 2-3 ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ยอมรับว่า วิกฤตการณ์การเงินโลกส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอังกฤษค่อนข้างรุนแรง และการอ่อนค่าลงของสกุลเงินปอนด์จะยิ่งตอกย้ำเศรษฐกิจให้ถดถอยลงอย่างรวดเร็วด้วย โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษระบุว่า ในไตรมาสสามของปี 2551 ประสิทธิภาพด้านการผลิตของอังกฤษร่วงลง 0.2%ต่อปี อัตราการลงทุนในภาคเอกเชียดิ่งลง 1.3%ต่อไตรมาส และผลผลิตในภาคบริการลดลง 0.2%ต่อไตรมาส
สถานการณ์ดังกล่าวบีบให้ธนาคารกลางอังกฤษตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยจากระดับ 4.2% เหลือเพียง 2% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 50 ปี ภายในระยะเวลาเพียง 2 เดือน ส่งผลให้ค่าเงินปอนด์ดิ่งลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร
แม้มีการประเมินว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาฟื้นตัวได้ และจะช่วยกอบกู้ความเชื่อมั่นทั้งในส่วนของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ แต่นักวิเคราะห์บางคนมองว่าการดำเนินการยังกล่าวยังไม่มากพอที่จะยับยั้งภาวะเศรษฐกิจถดถอยของอังกฤษได้ และคาดว่าเศรษฐกิจอังกฤษจะขยายตัวเพียง 2.9% ในปี 2552 ซึ่งหากเป็นไปตามคาดการณ์ ก็เท่ากับว่า เศรษฐกิจอังกฤษจะขยายตัวในอัตราที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา