ภาคธุรกิจบริการของสหรัฐในเดือนธ.ค.2551 มีแนวโน้มทรุดตัวรุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากผู้บริโภคต่างพากันรัดเข็มขัด ขณะที่สถานการณ์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์เลวร้ายลงเรื่อยๆ
นักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ดัชนีธุรกิจบริการของสำนักงานจัดการอุปทานที่ช่วยขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจถึงเกือบ 90% ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 36.5 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2540 และคาดว่าจำนวนชาวอเมริกันที่ซื้อบ้านมือสองปรับตัวลดลงในเดือนพ.ย. เช่นเดียวกับยอดสั่งซื้อสินค้าภาคโรงงานที่ปรับตัวลดลง
จากตัวเลขว่างงานที่ปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับมูลค่าที่อยู่อาศัยที่ลดลง และภาวะตลาดสินเชื่อตึงตัวจะส่งผลกระทบต่อหลายภาคธุรกิจตั้งแต่ธนาคารไปจนถึงก่อสร้างและอุตสาหกรรมค้าปลีกที่อาจเผชิญช่วงเวลาที่เลวร้ายจากยอดขายที่ซบเซาที่สุดในรอบ 4 ปีของช่วงเทศกาลจับจ่ายซื้อสินค้าในวันหยุด ซึ่งปัญหาดังกล่าวได้ทำให้นายบารัค โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐได้เรียกร้องให้มีการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อป้องกันภาวะเศรษฐกิจถดถอยไม่ให้ถลำลึกไปมากกว่านี้
"ภาวะเศรษฐกิจถดถอยกำลังปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน" ไมเคิล โมราน นักวิเคราะห์จากบล. ไดวา ซีเคียวริตี้ อเมริกา อิงค์ในนิวยอร์กกล่าว "ขณะนี้มีปัญหาหลายด้านและมีความเสี่ยงหลายอย่างที่จะฉุดรั้งให้เศรษฐกิจเข้าสู่ช่วงขาลง ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจหนึ่งไปยังธุรกิจหนึ่ง"
ทั้งนี้ สำนักงานจัดการอุปทานมีกำหนดรายงานดัชนีภาคอุตสาหกรรมบริการในวันนี้เวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์จะเปิดเผยดัชนียอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขายในเดือนพ.ย. ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวลดลง 1% ขณะที่กระทรวงพาณิชย์เตรียมรายงานยอดสั่งซื้อภาคโรงงานประจำเดือนพ.ย.ที่ตลาดคาดว่าจะดิ่งลง 2.3%