สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป รายงานว่า อัตราเงินเฟ้อของยุโรปปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่าสองปีในเดือนธ.ค. เนื่องจากราคาน้ำมันร่วงลงและการใช้จ่ายของผู้บริโภคซบเซา ซึ่งอาจเป็นโอกาสให้ธนาคารกลางยุโรปสบช่องลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในยูโรโซน หรือ กลุ่มประเทศที่ใช้เงินยูโร ชะลอตัวจาก 2.1% ในเดือนพ.ย. ลงสู่ระดับ 1.6% ในเดือนที่แล้ว ซึ่งต่ำกว่าเพดาน 2% ที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) กำหนดไว้เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เดือนส.ค.2550 และต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ที่บลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็น คาดการณ์ว่า CPI เดือนธ.ค.จะอยู่ที่ 1.8%
วิตอร์ คอนสแตนโช สมาชิกคณะกรรมการธนาคารกลางยุโรป กล่าววานนี้ว่า ขณะที่วิกฤตการเงินทั่วโลกได้ส่งผลกระทบต่ออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ดังนั้นอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงจึงอาจเป็นโอกาสให้อีซีบีลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก หลังจากที่ได้ตัดสินใจลดดอกเบี้ยลง 1.75% เมื่อต้นเดือนต.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ อีซีบีคาดการณ์เมื่อเดือนที่แล้วว่า เศรษฐกิจในเขตยูโรจะหดตัวประมาณ 0.5% ในปี 2552 ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) รายปีหดตัวลง นับตั้งแต่ที่เริ่มมีการใช้เงินสกุลยูโรเป็นครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อน