รัฐจะดึงเงินกองทุนน้ำมัน 3 พันลบ.พยุงราคาน้ำมันหลังเลิกลดภาษีสรรพสามิต

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 7, 2009 11:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน ระบุจะนำเงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงราว 3,000 ล้านบาท เข้าไปดูแลราคาน้ำมันไม่ให้ปรับสูงมากนัก หลังจากที่รัฐบาลประกาศว่าจะไม่ต่ออายุการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลและแก๊สโซฮอล์ ซึ่งจะครบกำหนดการบังคับใช้มาตรการดังกล่าวในสิ้นเดือนม.ค.นี้

รมว.พลังงาน กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเห็นว่าถ้าราคาน้ำมันอยู่ในระดับต่ำจะทำให้ประชาชนใช้พลังงานอย่างฟุ่มเฟือย ดังนั้นจึงจะใช้เงินจากกองทุนในจำนวนดังกล่าวเพื่อช่วยพยุงราคาน้ำมันตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.เป็นต้นไป ซึ่งเป็นวันที่ภาษีสรรพสามิตน้ำมันจะกลับขึ้นไปเท่าเดิม

โดยน้ำมันแก๊สโซฮอล์จะปรับขึ้นลิตรละ 3.30 บาท, น้ำมันดีเซลปรับขึ้นลิตรละ 2.30 บาท และน้ำมันไบโอดีเซลปรับขึ้นลิตรละ 2.10 บาท ทั้งนี้อยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดซึ่งอาจปรับราคาน้ำมันขึ้นแต่ไม่สูงจนเกินไป จากนั้นจะทยอยปรับราคาให้สะท้อนกับราคาตลาดโลกในอนาคต

นพ.วรรณรัตน์ กล่าวด้วยว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.)ครั้งแรกของรัฐบาลชุดนี้ในวันที่ 16 ม.ค. ที่จะมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานนั้น มีวาระพิจารณาเรื่องราคาก๊าซหุงต้ม(LPG)ที่นายกรัฐมนตรีสั่งให้ทบทวนว่าควรจะปรับโครงสร้างอย่างไร จำเป็นต้องปรับ 2 ราคาหรือไม่ โดยกระทรวงจะจัดทำหลายแนวทางให้ที่ประชุมพิจารณา

อย่างไรก็ตาม ในส่วนหนี้ที่เกิดจากการนำเข้าก๊าซ LPG ที่ บมจ.ปตท.(PTT) นำเข้ามาก่อนรวมมูลค่า 8,900 ล้านบาทนั้น จะมีการนำเงินกองทุนน้ำมันฯ ไปใช้หนี้แต่คงเป็นรูปแบบการทยอยใช้คืน เพราะฐานะล่าสุดของกองทุนน้ำมันฯมีวงเงินประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งหากหักหนี้ค้างปตท.ในส่วนการส่งเสริมพลังงานทดแทน การดูแลราคาน้ำมันช่วงลดภาษีแล้วจะเหลือเงินประมาณ 200-300 ล้านบาทเท่านั้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ