สมาคมหอการค้าและภาคธุรกิจในสหรัฐอเมริกา รวมทั้งกลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์ รวมตัวเรียกร้องให้สภาคองเกรสอนุมัติมาตรการลดหย่อนภาษีให้กับกลุ่มเจ้าของบ้านที่กำลังเสี่ยงต่อการถูกยึดบ้าน เหมือนกับที่คองเกรสเคยใช้มาตรการในลักษณะที่คล้ายกันนี้มาแล้วเมื่อปีพ.ศ.2550
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากบารัค โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ เสนอใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ รวมถึงการลดหย่อนภาษีซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 40% ของมาตรการดังกล่าวที่คาดว่าอาจมีวงเงินสูงถึง 7.75 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่นายแฮร์รี รีด ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐเปิดเผยว่า นักเศรษฐศาสตร์อย่างน้อย 20 คนแนะนำโอบามาว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งนี้ควรมีวงเงินสูงถึง 1.2-1.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
บรูซ จอสเทน รองประธานสมาคมหอการค้ากล่าวว่า "การใช้มาตรการเฉพาะกิจที่ครอบคลุมถึงการลดหย่อนภาษีและกระตุ้นการจ้างงานจะช่วยพยุงเศรษฐกิจสหรัฐให้อยู่รอดและขยายตัวต่อไปได้"
ขณะที่ แดเนียล ชาวิโร ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายภาษีประจำมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก กล่าวว่า มาตรการลดหย่อนภาษีของโอบามาไม่ถือเป็นนโยบายที่ดีและอาจจะไม่ส่งผลกระทบมากนัก อย่างไรก็ตาม การที่โอบามาออกมาเปิดเผยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค.ถือเป็นการส่งสัญญาณว่า เขาพร้อมที่จะเดินหน้าผลักดันเศรษฐกิจสหรัฐให้รอดพ้นจากภาวะถดถอยรุนแรง สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน