ผลสำรวจความคิดเห็นนักลงทุนที่จัดทำโดยบริษัทหลักทรัพย์โนมูระ ประเทศญี่ปุ่น เผยให้เห็นว่า นักลงทุนมองว่า การบริหารงานของคณะทำงานภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี ทาโร่ อาโสะ จะเป็นปัจจัยลบใหญ่ที่สุดสำหรับตลาดหุ้นโตเกียวในปีนี้
โดย 53% ของนักลงทุน 1,000 คน ระบุว่า รัฐบาลของนายอาโสะจะส่งผลกระทบในเชิงลบต่อหุ้นของบริษัทญี่ปุ่นในปี 2552
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า คะแนนนิยมในตัวของอาโสะร่วงลงอย่างมากในระยะเวลาไม่ถึง 4 เดือน โดยลดลงเหลือประมาณ 20% จากระดับ 50% เมื่อครั้งที่เขาเพิ่งก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากนักลงทุนมองว่านายอาโสะไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเพื่อป้องกันประเทศให้รอดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยรัฐสภาญี่ปุ่นยังไม่ได้อนุมัติรับรองแผนกระตุ้นเศรษฐกิจสองฉบับ เนื่องจากความขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านได้ทวีความรุนแรงขึ้นก่อนการเลือกตั้งในเดือนกันยายนปีนี้
ทาคาฮิเดะ คิอูจิ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบล.โนมูระ ในกรุงโตเกียว กล่าวว่า คณะทำงานของนายอาโสะไม่สามารถผลักดันให้มีการใช้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจให้เป็นผลสำเร็จได้ ทั้งที่ญี่ปุ่นจำเป็นต้องใช้แผนดังกล่าวที่สุด ดังนั้นจึงน่าจะเป็นการดีกว่าที่ญี่ปุ่นจะมีการเลือกตั้งก่อนกำหนด
สำหรับประเด็นที่นักลงทุนเป็นห่วงเป็นอันดับที่สอง ได้แก่ เศรษฐกิจในประเทศ ตามมาด้วยปัญหาในภาคการเงินสหรัฐ
ทั้งนี้ เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังเผชิญภาวะถดถอยขั้นรุนแรง โดยตัวเลขการส่งออกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมดิ่งลง อัตราว่างงานเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ดัชนีนิกเกอิทรุดลง 42% ในปี 2551 ซึ่งนับว่าเลวร้ายที่สุดเป็นประวัติการณ์