นายไพฑูรย์ แก้วทอง รมว.แรงงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจได้หารือถึงการแก้ปัญหาการว่างงานโดยจะจัดสรรงบประมาณให้กับกระทรวงแรงงาน 5,200 ล้านบาท จากงบกลางปี 1 แสนล้านบาท มาใช้ในโครงการฝึกอบรมแรงงานให้ตรงตามความต้องการตลาด โดยเน้น 3 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มแรงงานที่ถูกเลิกจ้างซึ่งขณะนี้มีอยู่ราว 8-9 แสนคน, กลุ่มภาคการเกษตรหรือแรงงานภาคชนบท และกลุ่มบัณฑิตจบใหม่อีกราว 6-7 แสนคน
ทั้งนี้ วันที่ 17 ม.ค.52 จะมีการจัดงานนัดพบแรงงานที่เป็นการนำองค์กรภาคเอกชนที่ต้องการแรงงานมาตั้งโต๊ะรับสมัคร ซึ่งคาดว่าจะมีความต้องการแรงงานราว 1.3 แสนอัตรา ส่วนแรงงานที่ยังไม่ตรงกับความต้องการของตลาด ก็สามารถยื่นเรื่องเข้าฝึกอบรมแรงงานที่รัฐบาลจะดำเนินโครงการได้
"งบ 5,200 ล้านบาท เป็นเฉพาะในส่วนของกระทรวงแรงงานเพื่อจัดโครงการฝึกอบรม แต่โดยรวมที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาแรงงานคาดว่าต้องใช้งบรวม 20,000 ล้านบาท โดยกระจายไปตามกระทรวงต่างๆ นำงบประมาณไปใช้เพื่อให้เกิดการจ้างงานมากขึ้น" รมว.แรงงาน ระบุ
นายไพฑูรย์ กล่าวด้วยว่า สำนักงานกองทุนประกันสังคมจะนำเงินกองทุนจำนวน 10,000 ล้านบาท ไปฝากที่ธนาคารของรัฐเพื่อให้ใช้เป็นเงินทุนสำหรับปล่อยสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยแบบผ่อนปรน โดยส่วนแรก 6,000 ล้านบาท จะปล่อยกู้ให้กับธุรกิจภาคเอกชนที่มีปัญหาสภาพคล่อง คิดอัตราดอกเบี้ย 5% เพื่อช่วยชะลอไม่ให้ภาคธุรกิจต้องปลดคนงาน ส่วนอีก 4,000 ล้านบาท จะปล่อยกู้ให้แก่ผู้ว่างงาน บัณฑิตจบใหม่ และสมาชิกกองทุนประกันสังคม
รายงานข่าวจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า วันพรุ่งนี้(8 ม.ค.)จะมีการลงนามในบันทึกข้อตกลงระหว่างกองทุนประกันสังคมที่จะนำเงินกองทุนฯ มาฝากที่ ธ.ก.ส.วงเงิน 4,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 1% เพื่อให้ ธ.ก.ส.นำไปปล่อยสินเชื่อต่อแก่ผู้ว่างงานและบัณฑิตจบใหม่ โดยคิดอัตราดอกเบี้ย 6% ซึ่งต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยปกติในปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ 7.25%