นายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ตลาดขายปลีกหน่วยธุรกิจน้ำมัน บมจ.ปตท.(PTT)กล่าวว่า ปตท.ปรับราคาน้ำมันขายปลีกทุกชนิดขึ้น 60 สตางค์/ลิตร (ยกเว้นแก๊สโซฮอล์ E85) มีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (8 ม.ค. 52) เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป
สำหรับราคาน้ำมันขายปลีกในกรุงเทพฯและปริมณฑลในวันพรุ่งนี้ เป็นดังนี้ น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 (พีทีที E 85 พลัส) อยู่ที่ 18.29 บาท/ ลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 (พีทีที E 20 พลัส) อยู่ที่ 15.59 บาท/ ลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 95) อยู่ที่ 16.89 บาท/ ลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 (พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 91) อยู่ที่ 16.09 บาท/ ลิตร, น้ำมันเบนซิน 91 (พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91) อยู่ที่ 21.39 บาท/ ลิตร, น้ำมันไบโอดีเซล (พีทีที B5 พลัส) อยู่ที่ 17.44 บาท/ ลิตร และ น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (พีทีที เดลต้า เอ็กซ์) อยู่ที่ 18.94 บาท/ ลิตร
วันนี้ (7 ม.ค.52) ราคาน้ำมันดิบดูไบปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 48.48 เหรียญสหรัฐฯ (สูงขึ้น 11.74 เหรียญสหรัฐฯ) น้ำมันสำเร็จรูปสิงคโปร์ เบนซินขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 50.33 เหรียญสหรัฐฯ (สูงขึ้น 11.46 เหรียญสหรัฐฯ) และดีเซลขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 64.81 เหรียญสหรัฐฯ (สูงขึ้น 10.12 เหรียญสหรัฐฯ)
สาเหตุที่ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้น เป็นผลจากการสู้รบระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ที่ยืดเยื้อมากว่า 2 สัปดาห์ และล่าสุดทวีความรุนแรงขึ้น โดยอิสราเอลส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้ากวาดล้างกลุ่มฮามาส ประกอบกับประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียมีความต้องการน้ำมันเพิ่มขึ้น เช่น เวียดนาม และอินโดนีเซีย ขณะที่ผู้ประกอบการกลั่นรายใหญ่ เช่น จีนและญี่ปุ่น ได้ลดอัตราการกลั่นน้ำมันลง
นายวิทยา ยังคาดว่า ในระยะสั้นนี้ราคาน้ำมันจะยังคงอยู่ในภาวะผันผวนต่อไป