กรณีโกงครั้งใหญ่ของบริษัท ซัตยัม คอมพิวเตอร์ เซอร์วิสเซส ผู้ผลิตซอฟท์แวร์รายใหญ่สุดอันดับ 4 ของอินเดีย นั้น กำลังสั่นคลอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อหุ้นของบริษัทอินเดีย อีกทั้งยังเป็นการปิดฉากการเริ่มต้นปีวัวที่สดใสที่สุดนับตั้งแต่ปี 2543 ของตลาดหุ้นอินเดีย
เกรก คุเนิร์ท ผู้จัดการกองทุนของอินเวสเทค แอสเส็ท เมเนจเมนท์ กล่าวว่า เราสงสัยว่ามีการปิดบังการฉ้อโกงครั้งมโหฬารนี้จากสายตาของผู้ตรวจสอบบัญชีได้อย่างไร เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมากและทำให้เราเป็นห่วงเกี่ยวกับสถานการณ์ในอินเดียขณะนี้
เมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นอินเดียดิ่งลงหนักสุดในรอบเกือบ 2 เดือนหลังจากนายรามาลิงกา ราชู ประธานของซัตยัม ประกาศลาออกจากตำแหน่ง พร้อมทั้งยอมรับว่าบริษัทได้ดำเนินการตกแต่งบัญชีเพื่อโชว์ผลกำไรที่สูงเกินจริงมานานหลายปี
ก่อนหน้านี้ บริษัท แฟรงค์ลิน เทมเปิลตัน อินเวสเมนท์ เคยมองว่า อินเดียจะสามารถเอาตัวรอดจากวิกฤตก่อการร้ายนครมุมไบไปได้ แต่เมื่อเกิดกรณีอื้อฉาวคีดซัตยัมขึ้น ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่ออินเดียจึงได้รับผลกระทบไปด้วย
อย่างไรก็ดี สุขุมาร์ ราชาห์ หัวหน้าฝ่ายลงทุนในหุ้นอินเดียของบริษัท แฟรงค์ลินฯ กล่าวว่า สถานการณ์ที่เลวร้ายนี้จะส่งผลกระทบด้านลบต่อตลาดเพียงระยะเวลาสั้นๆ แต่เหตุการณ์ดังกล่าวก็จะบีบให้หน่วยงานที่กำกับดูแลที่เกี่ยวข้องปรับปรุงการทำงาน ซึ่งถือเป็นผลบวกในระยะยาว บลูมเบิร์กรายงาน
ประธานบริษัทซัตยัม คอมพิวเตอร์ เซอร์วิส ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังจากยอมรับว่าตนดำเนินการตกแต่งบัญชีและบิดเบือนตัวเลขสินทรัพย์ในบริษัท
โดยนายราชู ประธานบริษัทวัย 53 ปีได้ออกมายอมรับว่า ตนได้ทำการตกแต่งบัญชีเพื่อเปิดเผยตัวเลขผลกำไรที่สูงเกินจริงมานานหลายปี ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้ส่งผลกระทบให้หุ้นซัตยัมดิ่งลง 69% เหลือ 55 รูปีในวันนี้ และฉุดรั้งให้ตลาดหุ้นอินเดียวูบหนักเป็นประวัติการณ์
เจ้าหน้าที่กำกับดูแลตลาดหุ้นอินเดียกล่าวว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นการสร้างความตื่นตระหนกต่อนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่หุ้นของซัตยัมได้ฉุดรั้งให้ตลาดหุ้นอินเดียทำสถิติดิ่งหนักสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อปีก่อนมาแล้ว